วันนี้เราอย ากที่จะพาเพื่อนๆ ไปเรียนรู้ข้อคิดเตือนใจลูกทุกคน กับบทความ ฝากถึงลูกทุกคน แม่คนนี้ชอบขอเ งิ นลูกทุกเดือน ไปดูกันว่าทำไมแม่ถึงจำเป็นต้องขอเงินลูกทุกเดือน
วันนี้เรามีเรื่องที่คนเป็นลูกควรได้อ่าน เพื่อเตือนสติให้เราคำนึงถึงความรัก ความหวังดีของคนที่เป็นแม่ นอ กจากจะเป็นคนดีของสังคมแล้วก็คือ การทำหน้าที่ลูกที่ดี ดังเรื่องที่จะกล่าวดังต่อไปนี้ สละเวลาสั้นๆ 2 นาที อ่านเรื่อง เบื่อมาก..มีแม่ที่ชอบขอแต่ ‘เงิน’ มีช ายหนุ่มคนหนึ่ง.. เขาก็เป็นเศรษฐีด้วยลำแข้งของตัวเขาเอง เมื่อไม่นาน มานี้
มารดาของเขาสิ้นบุญที่บ้านนอ กเขาก็ได้ไปร่วมงาน ทั้งๆ ที่เขาไม่ชอบแม่เลย เพราะแม่ของเขานั้น เอาแต่ ‘ขอเงิน’ อย่ างเดียว เดือนไหนเขาไม่ได้ส่ งเงินเข้าบ้าน แม่เขาก็จะโทรมาแล้วก็พูดเสียงดังว่าเขา เขาได้แต่พูดว่าเป็นแม่ที่ไม่เอาไหนจริงๆ ยิ่งร ว ยมากเท่าไหร่ แม่เขาก็ยิ่ง ‘ขอเงิน’ มากขึ้นเท่านั้น แต่เมื่อ กลับถึงบ้าน เขาก็ยังอ ดร้องไห้ไม่ได้ เพราะเขายังตะขิตตะขวงใจที่ไปทำงานไกลๆ ไม่เคยได้อยู่ดูแลคุณแม่ แม้จะเป็นแม่ที่ ‘เอาแต่เงิน’ เขาก็ยังอ ดรู้สึกติดค้างคุณแม่ไม่ได้
หลังงานศพ ก่อนที่เขาจะกลับ พี่ใหญ่ของเขาได้ยื่นซองเล็กๆ ซองหนึ่งให้เขา บอ กว่าคุณแม่สั่งนักสั่งหนาว่าต้องมอบให้เขา เขาเปิดซองออ กอย่ างระมัดระวัง ในนั้น มีสมุดเงินฝากธนาคารเล่มหนึ่ง และจดหมายฉบับหนึ่ง สมุดเงินฝากเป็นชื่อของเขา มีเงินฝากหล า ยสิบล้านเลย ในจดหมายเขียนว่า
‘ลูกช ายในบรรดาลูกๆ ของแม่ คนที่ทำให้แม่กังวลมากที่สุดคือลูก ตั้งแต่เล็กลูกไม่ขยันเรียนหนังสือ สุรุ่ยสุร่ายแถมใจกว้างกับเพื่อนฝูง พอลูกจะขอมาสู้ในเมืองหลวง แม่ก็กังวลเพียงว่าลูกจะตกระกำเป็นไอ้จรจัด ดังนั้นแม่จึงบังคับให้ลูกส่ งเงินกลับมาให้แม่ทุกเดือน เพื่อจะได้กระตุ้นให้ลูกไปหาเงินให้มากขึ้น ในขณะเดียวกันก็เป็นการ ช่วยลูกเก็บเงินอีกทางหนึ่ง เงินที่ลูกให้แม่ แม่ไม่ได้ใช้แม้แต่แดงเดียว พี่ช ายของลูกดูแลแม่ดีอยู่แล้วตอนนี้ลูกเอาไปใช้ให้คุ้มเถิด’
พออ่านจบเขาทรุดลงบนพื้น ทรุดอยู่เช่นนั้นเป็นเวลานานๆ ถ้ายังมีพ่อแม่อยู่ ก็แค่ทำหน้าที่ลูกให้ดีที่สุด อย่ าทำอะไรที่จะรู้สึกเสียใจภายหลังก็พอ หากลูกรักพ่อแม่ อย่ ากล่าวโ ท ษท่านใน 5 เรื่องนี้
1 ไม่โ ท ษพ่อแม่ว่าชักช้า
ย ามพ่อแม่แก่เฒ่า อย่ าด่าทอว่าท่านทำอะไรชักช้า หากเรายังไม่เคยเป็นพ่อแม่ เราไม่มีทางรู้เลยว่าคนเป็นพ่อแม่ต้องใช้ความรักความอ ดทน มากเพียงใด ในการสอนให้เราเดินสอนให้เรากิน สอนให้เราอาบน้ำ สอนให้เรา ฯลฯ ย ามที่ท่านหนุ่มสาว ท่านทุ่มกำลังแรงกายเพื่อพวกเรา มาบัดนี้ร่างกายจึงทรุดโทรม หากวันหนึ่งพ่อแม่แก่ชราลง กำลังวังช าเริ่มเสื่อมถอย จงจำไว้ ‘เห็นพ่อแม่ในวันนี้ ดุจเห็นตนเองในวันข้างหน้า’ เรื่องกตัญญู ต้องรีบลงมือทำ
2 ไม่โ ท ษพ่อแม่ว่าไร้ความสามารถ
ไม่มีใครที่เก่งไปทุกเรื่อง และไม่มีใครที่ทำทุกเรื่องได้สมบูรณ์พ่อแม่คือผู้ให้ชีวิต ทุ่มเทเลี้ยงดูเราจบเติบใหญ่ สิ่งนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย อย่ าต่อว่าพ่อแม่ว่า ‘สู้พ่อแม่ของคนอื่นก็ไม่ได้’ คำพูดนี้ เมื่อพูดออ กไป ต่อให้ม้าฝีเท้าไวก็วิ่งต ามไปเก็บกลับคืน มาไม่ทัน แล้วมันจะกล า ยเป็นตราบาปในชีวิตคุณไปทั้งชีวิต
3 ไม่โ ท ษพ่อแม่ว่าจู้จี้จุกจิก
พ่อแม่เกิดมาก่อนเรา มีประสบการณ์มากกว่าเรา อย่ าตะคอ กท่าน เมื่อท่านจ้ำจี้จำไชให้กินข้าว ให้ใส่เสื้อผ้าหนาๆ ให้ใส่หมวกกันน็อ ก ให้กลับบ้านเร็วๆ ให้เก็บห้อง ฯลฯ เพราะคนที่รักเราจริงเท่านั้นที่จะจู้จี้ในเรื่องนี้กับเรา พ่อแม่ไม่มีทางจู้จี้กับคนที่ไม่ใช่ลูกหลานของท่านแน่นอน หรือคุณว่าไม่จริง
4 ไม่โ ท ษพ่อแม่ที่ท่านบ่นว่า
ที่พ่อแม่บ่นว่า ก็เพราะเราทำไม่ได้ดี ที่บ่นว่าไม่ใช่เพื่อตัวท่านเอง แต่เป็นเพราะเพื่อเรา ไม่มีพ่อแม่คนไหนที่ไม่รักลูกของตนเอง ไม่มีพ่อแม่คนไหนที่ไม่อย ากให้ลูกเจริญก้าวหน้า ไม่มีพ่อแม่คนไหนที่ไม่อย ากให้ลูกของตนเป็นอภิช าตบุตร ที่เก่งกล้าสามารถ
5 ไม่โ ท ษพ่อแม่ย ามท่านป่ ว ยไข้
ไม่ว่าพ่อแม่จะยุ่งเพียงไร จะดึกดื่นเพียงไหน จะฝนตกแดดออ กปานใด พอเราเ จ็ บไข้ท่านจะละทิ้งการงานในทันที ท่านจะพาเราไปหาหมอในทันที ท่านจะหาวิธีเยียวย ารั ก ษ าเราในทันที ย ามที่ท่านป่ ว ยไข้ เราทำเหมือนที่ท่านทำให้เราได้มากน้อยเท่าไหร่? หรือว่าเพราะพ่อแม่เ จ็ บป่ ว ยนานวัน จึงทำให้ลูกไม่กตัญญูดูแลหรือ? หรือเราจะเป็นจำนวนคนที่สังคมตราหน้าว่าเป็นลูกอ กตัญญูเพิ่มขึ้นอีกคนหนึ่ง พ่อแม่ให้กายสังขารมา มิใช่ให้เรามาคอยกล่าวโ ท ษท่าน ในขณะที่เราโตขึ้น พ่อแม่ก็เริ่มแก่ชราลง
จวบจนลาโลก ลาลูกไปอย่ างไม่มีวันหวนกลับ ไม่มีพ่อแม่ก็ไม่มีเรา ‘โ ท ษกล่าวพ่อแม่ มิสู้เข้าใจพ่อแม่ หากแม้แต่พ่อแม่คุณยังให้อภั ยไม่ได้แล้ว จะไปให้อภั ยใครในโลกใบนี้ได้? ร้อยพันความดีงาม กตัญญู เป็นอันดับที่หนึ่ง เริ่มจากวันนี้ อย่ าได้โ ท ษกล่าวพ่อแม่เลย
ที่มา dhammasawatdee