วันนี้เราอย ากที่จะพาเพื่อนๆไปเรียนรู้วิธีการรับมือ กับลูกที่ชอบเอาแต่ใจ ไม่ยอมเชื่อฟังใคร กับบทความ วิ ธีรับมือ กับลูกจอมเอาแต่ใจ ให้เชื่อฟัง ไม่ต่อต้าน ไปดูกันว่าเราจะต้องรับมือ กับลูกอย่ างไร ให้ลูกเติบโตเป็นคนที่เข้มแข็งและใช้ชีวิตอยู่รอ ดได้ในสังคม
‘ลูกเอาแต่ใจ’ ปัญหาน่า ป ว ด ใ จ ของคุณพ่อคุณแม่ เมื่อเจ้าตัวน้อยที่เคยว่านอนสอนง่าย ยิ่งโต ยิ่งดื้อ ยิ่งเอาแต่ใจ แสดงความเป็นตัวของตัวเอง ออ กมามากขึ้น แล้วจะมีวิธีไหนช่วยแก้ปัญหาลูกเอาแต่ใจ เพื่อให้เติบโตไปไม่เป็น ‘ผู้ใหญ่เอาแต่ใจ’ ได้บ้าง ปัญหาของเด็กที่เอาแต่ใจตัวเอง จะทำให้ลูกคิดถึงแต่ตัวเอง ทำอะไรเพื่อตัวเอง ไม่ค่อยนึกถึงผู้อื่น ยอมแพ้ไม่ได้ ทั้งยังเรียกร้องสูง อ ดทนไม่ค่อยได้ คอยไม่เป็น อย ากได้อะไรต้องได้ และต้องได้ในทันที! สิ่งสำคัญที่ทำให้เด็กเติบโตมาเป็นคนที่เอาแต่ใจคือ การเลี้ยงดูของผู้ใหญ่ เพราะเด็กจะเรียนรู้วิธีที่ผู้ใหญ่ตอบสนองต่ออารมณ์ และความต้องการของเด็ก หากผู้ใหญ่ต ามใจมากเกินไป จะทำให้เด็กเคยตัวอย ากได้อะไรต้องได้ในทันที โตมาก็จะยิ่งเอาแต่ใจ คุณพ่อคุณแม่จึงต้องใส่ใจในการเลี้ยงดูลูกน้อยตั้งแต่ยังเล็ก
2 ขวบถึงวัยที่ลูกเริ่มเอาแต่ใจ
วัยที่ลูกเริ่มเดินได้ วิ่งไปมาอย่ างสบายใจ มักจะมีพฤติก ร ร ม เอาแต่ใจตัวเอง เพราะเป็นช่วงวัยอย ากรู้อย ากลอง สนุกกับการเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ รอบตัว โดยช่วงอายุ 2 ปี เด็กจะเริ่มสร้างพัฒนาการด้วยความเป็นตัวของตัวเอง เรียกได้ว่าเป็น วัยกำลังซน และเริ่มดื้อ ไม่ยอมเชื่อฟังหรือทำต าม เป็นช่วงที่เด็กไม่สามารถระงับ ความอย ากของตัวเอง ยังไม่รู้หรือไม่เข้าใจว่าสิ่งไหนทำได้ สิ่งไหนไม่ควรทำ ทั้งยังพูดไม่คล่องจึงไม่สามารถสื่อสารสิ่งที่ ต้องการออ กมาเป็นคำพูดได้ทั้งหมด
ทำให้ลูกรู้สึกอึดอัด หงุดหงิด ยิ่งถ้าถูกขัดใจหรือห้ามไม่ให้ทำอะไร เด็กก็ยิ่งแสดงออ กถึงความไม่พอใจออ กมา ช่วงอายุสำคัญ ที่ต้องเตรียมรับมือ ลูกดื้อ ลูกเอาแต่ใจ คือ 18 เดือนถึง 3 ปี หรืออาจนานถึง 5 ปี ช่วงวัยใกล้ ๆ 2 ขวบ เด็กจะเริ่มทำอะไรได้ด้วยตัวเองจึงเป็นวัยที่กำลังเอาแต่ใจ และแสดงวิธีการของตนเองโดยไม่ทำต ามผู้ใหญ่บอ กเสมอไป เพราะเด็กช่วงวัยนี้จะยึดตัวเองเป็นศูนย์กลางและใช้อารมณ์เป็นหลัก
วิธีเลี้ยงลูกไม่ให้เป็นเด็กเอาแต่ใจ
การเลี้ยงลูกไม่ให้เอาแต่ใจ ควรเริ่มต้นตั้งแต่ยังเล็ก โดยใช้ความอ ดทนของพ่อแม่เป็นพื้นฐาน ค่อยเป็นค่อยไปและค่อย ๆ อธิบายให้ลูกเข้าใจว่าสิ่งไหนทำได้ สิ่งไหนทำไม่ได้ วิธีเลี้ยงลูกไม่ให้เป็นเด็กเอาแต่ใจ ทำได้ดังนี้
1 ให้ลูกรู้จักคอย
การตอบสนองทุกอย่ างที่รวดเร็วเกินไปจะทำให้เด็กคอยไม่เป็น อย ากได้อะไรต้องได้ในทันที การฝึกให้ลูกคอยให้เป็นจะเป็นพื้นฐานสำคัญที่ทำให้เด็กรู้จักอ ดทนรอ เช่น ‘หนูอย ากจะให้แม่ไปเล่นด้วยแล้วใช่ไหมคะ รอแม่ล้างจานให้เสร็จก่อนนะคะลูก’ หรือแม้แต่การทำกิจวัตรประจำวันก็เป็นการสอนลูกไปในตัวอย่ างการพาเด็กไปเข้าคิวรอซื้ ออาหาร เพื่อฝึกให้ลูกรู้จักการรอคอย
2 ฝึกเรื่องระเบียบกฎเกณฑ์ตั้งแต่ยังเล็ก
การให้ลูกเล่นหรือทำอะไรควรมีขอบเขต เพื่อฝึกให้เด็กเรียนรู้ข้อห้ามและข้อบังคับ ทั้งยังช่วยให้เด็กหัดควบคุมตนเองอีกด้วย โดยบอ กให้ลูกเข้าใจว่าอะไรทำได้หรือไม่ได้ ใช้คำพูดที่สั้น กระชับ เข้าใจง่าย ด้วยน้ำเสียงปกติท่าทีอ่อนโยน แต่ต้องเอาจริงและเด็ดข า ด
3 สอนให้เด็กนึกถึงผู้อื่น
ฝึกให้เด็กช่วยเหลือผู้อื่นหรือคนในครอบครัว เช่น ช่วยคุณแม่พับผ้า หรือทำงานบ้านง่าย ๆ ต ามวัย แล้วชื่นชมความช่วยเหลือของลูกจะทำให้เด็กมีน้ำใจ คิดถึงผู้อื่นอยู่เสมอ ลดการคิดถึงแต่ตัวเอง ซึ่งจะช่วยลดพฤติก ร ร มเอาแต่ใจ
การสอนลูกตั้งแต่ยังเล็กจะช่วยลดพฤติก ร ร ม การเอาแต่ใจลงได้ แต่บางครั้งลูกก็แสดงการต่อต้าน ขั ด ขื น หรือ อ า ล ะ ว า ด เรียกร้องให้ได้ในสิ่งที่ตัวเองต้องการ ซึ่งคุณพ่อคุณแม่เองก็ต้องเตรียมตัวรับมือเช่นกัน
เทคนิคจัดการ ‘ลูกเอาแต่ใจ’
ในวัยที่เด็กกำลังซน ดื้อ เอาแต่ใจ คุณพ่อคุณแม่อาจจะใจอ่อน หรือสติหลุดได้ง่าย ๆ เพื่อทำให้เด็กหยุดร้องโวยวาย แต่การต ามใจหรือ ดุด่าอย่ าง รุ น แ ร ง ไม่เป็นผลดีในระยะย าว คุณพ่อคุณแม่จึงต้องฝึกจิตฝึกใจของตัวเองไปด้วย
– หนักแน่นไม่ โ อ น อ่อน การต ามใจบ่อย ๆ ทำให้เด็กเรียนรู้ว่า จะได้รับในสิ่งที่ตัวเอง ต้องการในทันที เด็กจึงรอคอยไม่เป็น พอไม่ได้ดั่งใจก็จะนำไปสู่พฤติก ร ร มที่ไม่น่ารัก เช่น ร้องไห้งอแง อ า ล ะ ว า ด หรือร้องกรี๊ด หากผู้ใหญ่ตอบสนองในสิ่งที่เด็กต้องการ
เด็กจะเรียนรู้ว่าวิธีนี้ได้ผลจึงทำซ้ำ คุณพ่อคุณแม่จึงต้องยึดหลักนิ่งสงบสยบ ความเคลื่อนไหว ไม่ดุหรือตี แต่ไม่ต ามใจ ผู้ใหญ่ต้องหนักแน่น อ ดทนและเอาจริง หากลูกทำสิ่งที่ไม่เหมาะสมให้พูดด้วยน้ำเสียงปกติ เช่น ‘หนูปาของเล่นใส่น้องไม่ได้นะลูก’
– ยึดมั่นในเหตุผล ผู้ใหญ่อาจจะคิดว่า เด็กไม่เข้าใจเรื่องเหตุผล แต่เด็กจะเรียนรู้จากการปฏิบัติตัวของผู้ใหญ่ รวมถึงเลียนแบบในสิ่งที่ผู้ใหญ่ทำด้วย ดังนั้นสิ่งที่ผู้ใหญ่ทำต้องมีเหตุผล และต้องอธิบายให้ลูกรับรู้ถึงเหตุผลนั้นได้ด้วย
เช่น ‘ที่แม่ห้ามลูกเล่น มี ด เพราะมันจะเป็น อั น ต ร า ย ต่อตัวลูก ถ้า มี ด โดนนิ้วหนูจะ เ จ็ บ มาก ๆ เ ลื อ ด ไ ห ล ต้องไปหา ห ม อ ด้วยนะ’ ที่สำคัญ หากไม่อย ากให้ลูกทำสิ่งไหน ผู้ใหญ่ก็ต้องไม่ทำสิ่งนั้น เพราะเด็กจะไม่เข้าใจว่า ทำไมผู้ใหญ่ทำได้แต่เด็กทำไม่ได้
– ใจแข็งที่จะลงโทษลูกเมื่อจำเป็น หากลูกมีพฤติก ร ร มที่เอาแต่ใจมาก หรือควบคุมตัวเองไม่ได้ ไม่ควรลงโทษลูก
ด้วยวิธี รุ น แ ร ง เมื่อลูกแสดงออ กถึงพฤติก ร ร มไม่เหมาะสม ให้ใช้วิธีขอเวลานอ กหรือ Time Out นำลูกออ กจากบริเวณนั้น หามุมสงบ ให้ลูกทบทวนตัวเอง พร้อมบอ กว่า ‘ถ้าลูกเงียบแล้วแม่จะกอ ดหนูนะ’ เมื่อลูกสงบลงให้ชื่นชม ‘เก่งมากนะจ๊ะ แม่ชอบที่หนูไม่งอแง’ หากลูกเอาแต่ใจเพียงเล็กน้อย ลองใช้วิธี เ บี่ ย ง เ บ น ความสนใจดูก่อน ด้วยการชวนลูกไปทำกิจก ร ร มอย่ างอื่น แต่ถ้าลูกยังร้องไห้ หรืองอแงไม่หยุด ให้แสดงความเข้าใจด้วยคำพูดอย่ าง ‘แม่รู้ว่าหนูเสียใจ แต่แม่อยู่ตรงนี้เสมอนะคะ ถ้าลูกหยุดร้องไห้แล้ว เรามาคุยกันนะ’ ในขณะที่รอให้ลูบหลังลูบหัวจนกว่า ลูกจะสงบ การรับมือเด็กเอาแต่ใจจะแตกต่างกันไปต ามแต่พฤติก ร ร มของเด็กแต่ละคน หากคุณพ่อคุณแม่ได้สอนลูกตั้งแต่ยังเล็กจะช่วยลดปัญหาลูก อ า ล ะ ว า ด รุ น แ ร ง ได้
ที่มา p a s s e d u c a t i o n, y i n d e e y i n d e e