อย่ าเอาเวลาแห่งความสุข ไปนั่งอธิบายให้คนที่มีอคติต่อคุณได้ เข้าใจคุณ

หากวันนี้มีคนที่เขาไม่ชอบคุณตั้งแต่แรก และไม่เคยคิดที่จะเปิดใจให้กับคุณก็อย่ าไปเสียเวลาชีวิตกับคนแบบนี้อีกเลย เอาเวลาที่มีมาสร้างความสุขให้กับตัวคุณเอง เหมือนกับข้อคิดดีๆ จากบทความ อย่ าเอาเวลาแห่งความสุข ไปนั่งอธิบายให้คนที่มีอคติต่อคุณได้ เข้าใจคุณ


ทุกคนอย ากจะฟังสิ่งที่เขาอย ากจะฟังเท่านั้น คนที่เข้าใจคุณ ก็จะเข้าใจคุณตั้งแต่แรก

คนที่ไม่เข้าใจคุณ เขาก็จะเลือ กที่จะไม่เชื่อคุณไปตลอ ด อย่ าเสียเวลาอธิบายกับคนที่จะฟังในสิ่งที่เขา.. อย ากจะได้ยินเท่านั้น

คุณควรจะคิดได้ว่า คุณพย าย ามทำให้คนอื่นชอบ ในตัวคุณ แต่พวกเขาไม่ได้ ‘แคร์’ คุณ เหมือนที่คุณ ‘แคร์’ เขาหรอ ก พวกเขามาวิจารณ์แล้วก็ไป แต่ทิ้งผลลัพธ์มากมายไว้ในชีวิตคุณ อย่ าไปเสียเวลาอธิบายคนที่เข้าใจคุณผิด… สักวันความจริงย่อมปรากฎเอง

ในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง หญิงสาวคนหนึ่งเกิดตั้งท้อง ซึ่งไม่มีใครรู้เลยว่าใครเป็นพ่อในท้อง พ่อแม่ของหญิงสาวคนนี้ต่างก็เฝ้าถามอยู่ทุกวี่วัน หญิงสาวก็ไม่ยอมปริปากบอ กออ กไปสักที พ่อแม่ก็ถามบ่อยขึ้นเรื่อยๆจนหญิงสาวทนแรงกดดันไม่ไหว

จึงได้บอ กออ กไปว่า ‘พ่อของลูกในท้องข้า เป็นพระอาวุโสรูปหนึ่งที่วัดในหมู่บ้านนี่แหละ’ เมื่อพ่อแม่รู้แบบนั้น ก็พากันไปที่วัดในหมู่บ้าน แล้วไปต่อว่าพระอาวุโสรูปนั้นยกใหญ่ กล า ยเป็นที่ติฉิน นิ น ท า ของคนในหมู่บ้าน ทุกคนก็ต่างพากัน ป ร ะ น า ม พระรูปนั้นต ามไปด้วย

ไม่นานหญิงสาวก็คลอ ดลูกออ กมา ฐานะทางบ้านของหญิงสาวไม่ได้มั่งมีอะไร ไม่สามารถเลี้ยงดูลูกได้ จึงพากันนำ เ ด็ ก ไปไว้กับพระอาวุโสรูปนั้น เพราะเข้าใจว่าเป็นพ่อของลูก จะได้รับผิดชอบด้วย พระไม่ได้ว่าอะไร บอ กแต่เพียงว่า ‘อ้อ เป็นอย่ างนี้นี่เอง’ แล้วก็รับ เ ด็ ก ไว้เลี้ยงเอง ตั้งแต่นั้นเป็นต้น มา พระท่านก็พา เ ด็ ก คนนี้ไปบิณฑบาตทุกเช้า

คนในหมู่บ้านเห็น ต่างก็พากัน นิ น ท า และตำหนิพระอาวุโสกันหมดทั้งหมู่บ้าน หลังผ่านไปได้ 1 ปี หญิงสาวรู้สึกผิดมาก จึงไปสารภาพความจริงกับพ่อแม่ ว่าจริงๆแล้วพ่อของลูกไม่ใช่พระอาวุโสรูปนั้น แต่เป็นคนอื่น ซึ่งพระอาวุโสรูปนั้นไม่เกี่ยวข้องด้วยเลย ครอบครัวจึงได้พากันไปหาพระ แต่ภาพที่เห็นคือ พระท่านดู โ ท ร ม

ลงกว่าเมื่อก่อน มาก เพราะต้องเลี้ยงดู เ ด็ ก แต่ เ ด็ ก นั้นกลับอ้วนท่วมสมบูรณ์น่ารักน่าชัง หญิงสาวจึงได้สารภาพผิดกับพระรูปนั้น พร้อมกับมากราบขอขมาพระท่านที่ล่วงเกิน แต่พระท่านพูดออ กมาเพียงว่า ‘อ้อ เป็นอย่ างนี้นี่เอง’ พ่อแม่ของหญิงสาวจึงถามพระท่านว่า ‘พระท่านถูกกล่าวหา มีแต่คน นิ น ท า

มาตลอ ดระยะเวลา 1 ปีเต็ม แต่ท่านกลับไม่เคยคิดที่จะไปแก้ตัวกับใครเลย แม้ว่าท่านก็รู้ว่าความจริงคืออะไร เพราะอะไรหรือเจ้าคะ’ พระท่านจึงบอ กว่า ‘การบวชเป็นพระ ก็เพื่อตัด กิ เ ล ส ทั้งปวง ชื่อเสียงก็เป็นเพียงของภายนอ กที่คนสมมติกันขึ้น มา

ถึงคนอื่นจะเข้าใจอาตมาผิดไปจากความเป็นจริง อาตมาก็ไม่ได้เดือ ดร้อนอะไร แต่การที่อาตมารับ เ ด็ ก ไว้ เพื่อที่จะช่วยแม่และลูกพ้นจากวิกฤตครั้งนี้ ซึ่งก็เป็นการทำบุญอย่ างหนึ่งเหมือนกัน ‘ ดังนั้น…หากมีคนเข้าใจผิดคุณ แม้ว่าคุณจะรู้ความจริงอยู่แก่ใจว่าเป็นอย่ างไร

แต่เขาเหล่านั้นก็พร้อมจะเชื่อสิ่งที่เขาได้ยิน มาแบบนั้น ไม่มีประโยชน์อะไรที่เราจะไปอธิบายให้เขาเข้าใจ เพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของเรา เพราะสุดท้ายเขาก็เชื่อสิ่งที่เขารู้มาแต่แรกอยู่แล้ว ฉะนั้นจงอย่ าเสียเวลาไปอธิบายให้ใครฟัง

ในเมื่อเขาต้องการจะเชื่อเรื่องราวผิดๆแต่แรก แล้วปล่อยให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ของเราเอง แล้ววันหนึ่ง ความจริงก็จะปรากฏออ กมา โดยที่เราไม่ต้องไปต ามอธิบายกับใครให้เหนื่อย

ที่มา bitcoretech