11 ฝึกตนให้เป็นคนใจเย็น วิถีที่คนฉลาดชอบทำ

วันนี้เราจะพาเพื่อนๆ ไปเรียนรู้วิถีที่คนฉลาดชอบทำ และทำให้เป็นคนนิ่งเฉยและฉลาดมากยิ่งขึ้น กับบทความ 11 ฝึกตนให้เป็นคนใจเย็น วิถีที่คนฉลาดชอบทำ ไปดูกันว่าต้องทำอย่ างไรบ้าง เพื่อให้เราเป็นคนใจเย็น

คงจะเคยได้ยินกัน มาบ้าง ว่า ‘คบคนพาล พาลไปหาผิด คบบัณฑิต บัณฑิตพาไปหาผล’ พูดง่ายๆ ก็คือ ถ้าเราคบกับคนประเภทไหน เราก็จะเป็นคนแบบนั้น แต่ทว่าการที่เราจะดีจะชั่ ว มันก็ขึ้นกับตัวเราเลือ กเองไม่ใช่หรือ?

เพราะมนุษย์เราทุกคน มีความอ่อนแอก็จริงแต่ก็มีศักยภาพพอที่จะคิดเองได้ เลือ กเองได้ และคงไม่อ่อนแอถึงกับให้คนอื่น ชักจูงได้ง่ายแน่ ชีวิตเราเป็นของเรา ไม่มีใครมาเปลี่ยนตัวเราได้ถ้าเราไม่ยอมเปลี่ยนเสียเอง การหลบหลีกก็ไม่ใช่วิธี

การแก้ปัญหาที่ดีที่สุดเท่าการเผชิญหน้า และในทุกความสัมพันธ์ ทุกสังคม ย่อมมีคนดีคน เ ล ว ปะปนกันไป เราเลือ กไม่ได้เช่นกันที่จะเปลี่ยนใครให้ได้ดั่งใจเราไปหมด ทุกที่ที่เราไปล้วนแต่ต้องการการปรับตัวเพื่อความอยู่รอ ดทั้งนั้น และถ้าคุณได้หลุดเข้าไปอยู่ในสังคมที่แวดล้อมไปด้วยสิ่งไม่ดี คนไม่ดี 11 วิธีต่อไปนี้จะทำให้คุณอยู่ได้อย่ างสบายห า ยห่วง

1 อย่ าถือโทษโ ก ร ธเคือง เมื่อปลีกตัวออ กมาจากสถานการณ์ แ ย่ๆ มันก็คือ การทิ้งเรื่องให้มันกองอยู่ตรงนั้น อย่ าเอามาคิดติดตัวด้วยเหมือนพกของสำคัญไปต ามที่ต่างๆ อะไรที่ไม่ดีก็โยนทิ้งไป ไม่จำเป็นถึงกับต้องเอามาใส่ใจให้มากหรอ ก

2 ไม่คิดเรื่องที่ไม่ใช่ธุระของตัวเอง ต่อให้คุณอยู่ท่าม กลางบรรย ากาศของความขัดแย้ง เพื่อนทะเลาะกัน คุณก็เป็นเพียงแค่บุคคลที่สาม ทำได้แค่เพียงรับฟังปัญหาที่เขาระบาย แต่ไม่ควรเจ้ากี้เจ้าการเข้าไปช่วยยุติปัญหา ของพวกเขาหรือเก็บเอามาคิดเอง เ ค รี ย ด เองให้เสียสุขภ าพจิตเปล่าๆ

3 ใจเย็น ทำใจเป็นกลางกับทุกเรื่องรอบตัวแล้วปล่อยวาง มันไม่ใช่เรื่องของคุณ อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด

4 พาตัวเองออ กจากสถานการณ์แ ย่ๆ นั้น ไม่จำเป็นที่คุณจะต้องขังตัวเองไว้กับสถานการณ์แ ย่ๆ

หรือสแตนบาย จุ ด เ กิ ด เ ห ตุ หวังดีเผื่อว่าเพื่อนจะขอความช่วยเหลือได้ทัน เพราะไม่คุณจะโดนลูกหลงเอาได้ คุณก็จะเสีย สุ ข ภ า พ จิ ต เสียเอง พาตัวเองออ กมาสแตนบายไกลๆ แบบอยู่ห่างๆ อย่ างห่วงๆ นอ กจากจะทำให้คุณปลอ ดภั ยขึ้น มันยังทำให้คุณรู้สึกดีขึ้นที่ไม่ต้องทนเห็นอะไรแ ย่ๆ อีกด้วย

5 สูดลมห า ยใจลึกๆ ก่อนจะถอนห า ยใจกับบรรย ากาศรอบตัว ที่ชวน ป วดหัว ให้สูดห า ยใจเข้าลึกๆ เรียกสติและพลั ง เข้าตัวเอง นี่ไม่ใช่เรื่องของฉัน และไม่มีอะไรให้น่าเป็นห่วง ฮึบ!

6 นับ 1-10 ถ้ายังไม่โอเคก็นับ 1-20 ถ้าจู่ๆ ต้องพาตัวเองไปอยู่ในสถานการณ์ตึง เ ค รี ย ด เช่น การเข้าประชุม หรืออยู่ดีๆ ก็มีคนเอาเรื่องอึดอัดใจมาโยนให้ทั้งที่ไม่ใช่ธุระของเรา ใจร่มๆ เข้าไว้ นับ 1-10 ตั้งสติ รั้งตัวเองไม่ให้บ้ า ไปต ามแรงยั่ ว ยุนั่น แล้วแจกยิ้มออ กไป

7 ออ กกำลังกาย ถ้ายังรู้สึกค้างคาใจ อึดอัดใจที่จู่ๆ ก็โดนหาเรื่องในที่ทำงาน หรือโดนเพื่อนพาลใส่โดยไม่ทราบสาเหตุ เก็บความอึดอัดใจนี้มาระบายกับการออ กกำลังกาย เพราะนอ กจากร่างก าย จะสุขภ าพ ดีแล้ว ส มอง คุณยังโล่งขึ้น จากการหลั่ ง ส าร เอนโดรฟิ น ขณะออ กกำลังกายด้วย

8 พูดออ กมาดังๆ ยิ้มให้กับตัวเองในกระจก ปลุกพลั ง ให้กับตัวเองด้วยการพูดแต่คำที่มีความหมายดีๆ ออ กมาดังๆ ‘ฉันสวย! ฉันร ว ย! ฉันเก่ง!’ ต่อให้โลกแ ย่แค่ไหน เจอคนไม่ดียังไง ฉัน มี ดีของฉัน !

9 ง่วนอยู่กับกิจกรร มบางอย่ าง ออ กไปเที่ยวสักทริปย าวๆ แต่งสวน จัดบ้าน เล่นดนตรี นอ กจากจะ ผ่ อน คล า ย ตัวเรายังจะมีสมาธิกับสิ่งที่ทำอยู่จนไม่คิดถึงเรื่องแ ย่ๆ ที่ได้เจอมาปะปนกันอีกด้วย

10 พาตัวเองออ กไปอยู่ในสิ่งแวดล้อมดีๆ ออ กจากภาระงานที่เ ค รี ย ด บรรย ากาศทะเลาะเบาะแว้ง เข้าไปอยู่ในที่สบายๆ ไม่ว่าจะขับรถออ กไปที่ไกลๆ หาร้านกาแฟเงียบๆ นั่งพัก เข้าวัดทำบุญ หรือที่ไหนก็ได้ที่คุณ ผ่ อน คล า ยมากขึ้นและทำให้มองเห็น อะไรดีๆ จากสิ่งรอบตัวมากขึ้นด้วย

11 หันหน้าเข้าหาธรรม ละ กิ เ ล ส ละความโลภ โ ก ร ธ หลง แล้วมาทำบุญทำทานให้จิตใจสงบขึ้น

เราไม่มีทางรู้แน่ชัดว่า สิ่งศักดิ์สิทธิ์จะช่วยอะไรได้ แต่อย่ างน้อยการที่เราได้สละทาน ได้ทำบุญ ได้เป็นผู้ให้ มันก็เป็นการกระทำที่ทำให้รู้สึกสบายใจขึ้นทันต าอย่ างบอ กไม่ถูกแต่เห็นได้ชัด

และไม่ว่าคุณจะอยู่ใน สถานการณ์ใดก็ต าม นอ กจากนึกถึงเรื่องธรรมะที่เป็นการนึกถึงในสิ่งดีๆ แล้ว อย่ าลืมมองโลกในแง่ดีอยู่เสมอ คิดบวกกับทุกสิ่งเสมอด้วย

ที่มา j e e b.m e, v e r r y s m i l e j u n g