4 แนวความคิดพลิกชีวิตจากศูนย์สู่เงินล้าน

วันนี้เราจะพาคุณไปเรียนรู้แนวคิดของคนสู้ชีวิตที่เริ่มจากศูนย์สู่เส้นทางเงินล้าน กับบทความ 4 แนวความคิดพลิกชีวิตจากศูนย์สู่เงินล้าน ไปดูกันว่าคนที่เขาสู้ชีวิตเขามีแนวความคิดอย่ างไรในการพลิกชีวิต

เพราะคนเรา เกิดมาไม่มีอะไรที่เหมือนกันเลย ต่างกัน มากน้อย แล้วแต่คน แต่มีอยู่สิ่งหนึ่ง ที่ทุกคน มีเท่ากัน ก็คือเวลา เพราะในแต่ละวัน เรามี เวลา 24 ชั่ วโมง หากเรานอนวันละ 8 ชั่ วโมง ก็จะมีเวลาตื่นอยู่ 16 ชั่ วโมง รวมเวลา 10 ปี นั้นเป็นเวลาหล า ยหมื่นชั่ วโมง

เพราะฉะนั้นแล้ว พอเรามีเป้าหมายในชีวิต เราก็ควรทำมันให้ดี ในเวลาที่เรามี เพราะเรามีความตั้งใจ มุ่งมั่นทำอะไร สมองก็จะมีแต่เรื่องนั้นๆ อย่ างคนที่เรียนหนังสือเก่งๆ สมองก็จะจดจ่อ แต่กับการอ่า นการเขียน การคิดเทคนิคต่างๆ ที่จะทำให้ตนเองเก่ง และเชื่อมั่นว่า เราทำได้แค่มีความมุ่งมั่น อย่ างถูกวิธี ก็จะประสบผลสำเร็จ ได้อย่ างที่ฝัน ซึ่งเราได้เสนอวิธี ‘ร ว ย’ ง่ายๆที่ใครก็ทำได้ ที่จะทำให้ธุรกิจทั้งเล็กใหญ่ ได้ประสบความสำเร็จ ทำเงิ นให้งอ กเงยและมีขั้นตอนดังต่อไปนี้

1 หาเงิ นได้ต้องมีเงิ นเก็บ

เราจงเป็นประหยัด ( แต่อย่ าขิ้งก ) เพราะการประหยัด ต่างจากการขิ้เหนียว คือคนที่ประหยัด เขาจะรู้จักจ่ายในสิ่งที่ควรจ่าย ส่วนคนที่ขิ้เหนียวนั้น จะไม่ยอมจ่ายอะไรเลย แม้จะจำเป็นแค่ไหน ก็ไม่ยอมจ่าย เพราะการมีเ งิน แต่ไม่สามารถ ใช้จ่ายอย่ างเหมาะสมได้

มันน่าเป็นทุ ก ข์กว่า การที่มีเงิ นน้อยอีกนะ คนที่ต้องการจะร ว ยเนี่ย จึงไม่ควรลดค่าใช้จ่าย จนถึงขั้นขิ้เหนียว หากมีสิ่งจำเป็น ที่ต้องใช้ ก็ต้องใช้ไป อย่ าเก็บเงิ นอย่ างเดียว จนไม่ยอมเอาเงิ นที่มี ไปรั ก ษ าตัวเอง เ จ็ บป่ ว ยมาก็อาจจะไม่มีโอกาส ได้ใช้ และสิ่งที่สำคัญที่สุด ของคนเราไม่ใช่เงิ นแน่ๆ แต่มันคือสุขภาพของเรา ต้องมาก่อน หากมีเ งินแล้ว สุขภาพไม่ดี เ งินที่มีก็คงจะช่วยอะไรไม่ได้จริงมั้ย!

2 คิดให้ถูกก่อนวิ่งหาเงิ น

การมีแค่ไหน จึงเรียกว่าร ว ย หากพูดถึงคำว่าเงิ น ใครๆก็อย ากมีกันทั้งนั้น แต่มีเ งินแค่ไหนล่ะ จึงจะเรียกว่าร ว ย พอจำนวนเงิ น ไม่ได้ตอบโจทย์ ว่าเท่าไหร่ถึงจะร ว ย คำว่าร ว ยน่าจะขึ้นอยู่ กับเรื่องอื่นๆด้วย เราต้องมาดูว่า เรามีความจำเป็น จะต้องใช้มากน้อยแค่ไหน

แต่หากเรา มีท รั พ ย์สินทั้งเ งินทองที่ดิน รายได้จากการให้เช่า หรือรายได้อื่นๆ ที่ทำให้เราอยู่ได้ แบบที่ไม่ต้องทำงาน มันก็น่าจะเข้าข่าย คนที่เรียกว่า ร ว ยได้ การตั้งเป้าหมายนั้นก็ขึ้นอยู่กับการใช้จ่ายของตัวเราด้วย เพราะหากใช้มาก ก็ร ว ยย าก แต่หากใช้น้อย เก็บเยอะก็ร ว ยเร็ว บางคนเรียกความร ว ยว่า อิสรภาพทางการเงิ นง่ายๆ คือไม่ได้ทำงาน ก็สามารถใช้ชีวิตอยู่ได้ยังไงล่ะ

3 มีเงิ นเก็บแล้วต้องเอาไปลงทุนเพื่อมุ่งสู่ความร ว ย

ในหนังสือได้มีคำแนะนำ ในเรื่องของการลงทุน ในหุ้น และก็มีอยู่ 7 วิธีซื้ อหุ้นสำหรับคนที่ไม่ใช่เซียนหุ้น แม้ว่าเราไม่ใช่เซียนหุ้น ก็สามารถจะสร้างกำไร จากการเล่นหุ้นได้ โดยเลือ กซื้ อด้วยวิธีที่ปลอ ดภั ยไว้ก่อน

1 เลือ กหุ้นที่มีปันผลมาเป็นประจำ

2 อย่ าซื้ อหุ้นต ามเสียงเชียร์

3 เลือ กซื้ อหุ้น จากความมั่นใจในกิจการ

4 เลือ กหุ้น เฉพาะผู้บริหาร มีคุณธรรมจริยธรรม

5 คิดว่านี่แหละ คือ การซื้ อบริษัท และถือย าวได้

6 เลือ กซื้ อหุ้น ในปีที่หุ้นตกสุดๆ

7 ใช้เ งินนอน ซื้ อหุ้น ( เ งินนอน คือเงิ นที่เหลือเก็บ ที่ไม่ได้ใช้อะไรแล้ว ) เพราะการลงทุน มีความเสี่ยง

4 แนะนำวิธีใช้ชีวิตเพื่อรั ก ษ าความร ว ยให้อยู่กับเรานานๆและยั่งยืน

ช่วยกันหาทั้งครอบครัว และถ้าเป็นคนโสด เราจะหา จะจ่ายอะไรก็ทำได้ และเป็นอิสระ ไม่ต้องมีใคร มาช่วยตัดสินใจ แต่กลับกัน เมื่อเราแต่งงาน มีครอบครัวแล้ว การคิดถึงครอบครัวนั้น เป็นเรื่องที่เลี่ยงไม่ได้ เพราะอุปนิสัยของคู่ชีวิตนั้น

บ่งบอ กถึงอนาคต ความร่ำร ว ยของครอบครัวได้เลย และถ้าคุณเลือ กคู่ชีวิต ที่มีนิสัยใช้เงิ นฟุ่มเฟือย ไม่ว่าจะขยันแค่ไหน หาเงิ นเก่ง มันก็เหมือนขันตักน้ำก้นรั่ว แต่หากคุณเลือ กคู่ชีวิต ที่รู้จักออมช่วยกัน โอกาสที่จะร่ำร ว ยก็มี หากคุณได้มีโอกาสได้เลือ ก คิดดูสิว่า คุณควรเลือ กคู่ครองแบบไหน จึงจะเหมาะกับคุณ

ที่มา stand-smiling