6 สิ่งที่พ่อแม่ทำ ส่ งผลต่อลูกโดยไม่รู้ตัว

วันนี้เราอย ากที่จะพาเพื่อนๆ ไปเรียนรู้พฤติก ร ร มของพ่อแม่ที่รังแกลูกเมื่อเติบโตโดยไม่รู้ตัว กับบทความ 6 สิ่งที่พ่อแม่ทำ ส่ งผลต่อลูกโดยไม่รู้ตัว ไปดูกันว่ามีพฤติก ร ร มอะไรบ้างที่พ่อแม่ควรหยุดทำ

การเลี้ยงลูกอย่ างต ามใจจนเกินไป ทำให้เด็ กที่ถูกต ามใจจากพ่อแม่กล า ยเป็นเด็กสปอยล์ หรือเรียกได้ว่าการที่พ่อแม่สปอยล์ลูก ( Spoil ) คือ การทำให้เด็ กเสี ยคน หรือต ามใจลูกจน เกินไปนั่นเอง คุณพ่อคุณแม่อาจมองว่าเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่จะส่ งผล ร้ า ย ต่อเด็ กได้ใน อนาคต วันนี้เราขอพาส่องว่ามีพฤติก ร ร มแบบไหนบ้างที่พ่อแม่รังแกฉัน ทำ ร้ า ยลูกแบบไม่รู้ตัว

1 ต ามใจลูกมากเกินไป

ต ามใจในที่นี้ก็คือ การปล่อยให้ลูกอย ากทำอะไรก็ทำ โดยไม่คำนึงถึงความถูกต้อง ทั้งๆที่รู้ว่าหากปล่อยลูก ให้ทำแบบนี้เป็นสิ่งที่ไม่ดี ก็ยังต ามใจลูกให้ทำและไม่ สอนลูกในสิ่งที่ควรหรือไม่ควรทำ โดยคิดว่าเมื่อโตขึ้น ลูกจะเรียนรู้ถูกผิดได้เอง ซึ่งความคิดในการเลี้ยงลูกด้วย วิธีนี้เป็นสิ่งที่จะทำให้ลูกติดนิสัยไปจนโตได้ เพราะเด็ ก ยังไม่รู้จักการแยกแยะด้วยตนเอง ดังนั้นพ่อแม่จึงไม่ ควรปล่อยลูกให้หรือต ามใจลูกจนเกินพอ ดี และควร จะเป็นฝ่ายที่สอนลูกก่อนจะสายเกินไป

2 ให้ท้ายลูก ให้อภั ยลูกแบบผิด ๆ

คุณพ่อคุณแม่ควรเลิกคำพูดติดปากว่า… เขายังเด็ ก อย่ าถือสาเด็กเลย เพื่อปกป้องเวลาลูกเวลาทำผิด โดยไม่สนใจเหตุผล ควรสอนให้ลูกทราบถึงเหตุผล และยอมรับความจริง หากทำผิดต้องขอโท ษ และ ไม่ทำผิดซ้ำอีก เพราะยิ่งถ้าสอนลูกตั้งแต่ยังเล็กจะ ง่ายกว่าสอนตอนเด็ กโตแล้ว นอ กจากนี้คุณพ่อคุณ แม่ควรพูดและปฏิบัติกับลูกใน มาตรการที่ตรงกัน เพื่อไม่ให้เด็ กเกิดความสับสน

3 เอาใจเกินพอ ดี

เอาใจเกินพอ ดี ตอบสนองลูกด้วยการให้มากเกินไป ทั้งวัตถุและสิ่งของ เพราะหวังจะให้ลูกมีความสุข แต่ กล า ยเป็นว่าสิ่งที่พ่อแม่นั้นกลับส่ งเสริมให้ลูกไม่รู้จัก พอ ไม่รู้จักความย ากลำบากและการอ ดทนรอคอย ไม่ยอมรับกับความผิดหวัง ไม่เห็นคุณค่าของสิ่งที่ ได้มา กล า ยเป็นเด็ กเอาแต่ใจตัวเอง และสุดท้าย ลูกก็จะไม่มองเห็นคุณค่าของคนอื่นด้วย

4 เข้มงวดกับลูกมากไป

หากคุณเลี้ยงลูกแบบเข้มงวดมากเกินไป ก็อาจจะ ทำให้ลูกกล า ยเป็นเด็ ก ขี้ กลั ว ไม่กล้าตัดสินใจอะ ไรเอง ไม่มีความมั่นใจในตัวเอง เพราะอะไรที่มัน มาก เกินไป ผลลัพธ์ที่ได้มักจะไม่ดีเสมอ ดังนั้นถ้าไม่อย าก ให้ลูกกล า ยเป็นเด็ กมีปัญหา ลองปล่อยให้ลูกได้คิด ในการตัดสินใจและได้ทำอะไรด้วยตัวเองดูบ้าง

5 แสดงพฤติก ร ร ม แ ย่ ๆ ให้ลูกเห็น

เด็ กเล็ก ๆ มักจะมีพฤติกร รมการลอ กเลียนแบบ คนใกล้ตัว ดังนั้น ถ้าพ่อแม่ทำไม่ดีต่อหน้าลูกก็จะ ทำให้ลูกเลียนแบบนิสัยไม่ดีของพ่อแม่ไปได้ ดังนั้น ไม่ว่าจะเป็นคำพูดหรือ การแสดงออ ก หากไม่อย าก ให้ลูกทำไม่ดี ก็ไม่ควรทำให้ไม่ว่าจะอยู่ต่อหน้าหรือ ลับหลังลูก

6 ลงโท ษลูกหนักเกินไป

เชื่อว่าพ่อแม่ทุกคนอย ากให้ลูกเติบโตมาเป็นคนที่ดี ของสังคม เด็ก ๆ ควรได้รับการลงโท ษเมื่อทำผิดเป็น เรื่องที่ถูกต้องแล้ว แต่วิธีการลงโทษก็ควรเหมาะสม กับความผิดของลูกด้วย เพราะบางครั้งลูกอาจทำผิด ด้วยความไม่รู้ จึงไม่จำเป็นต้องลงโท ษทุกครั้ง แต่ เริ่มต้นลูกด้วยการตักเตือน อธิบายให้ลูกเข้าใจถึง ความผิด และถ้าหลังจากนั้นลูกยังดื้ อทำผิดซ้ำๆ อีก ก็ควรหาวิธีลงโท ษลูกด้วยความเหมาะสมกับวัยหรือ ความผิดโดยหลีกเลี่ยงการใช้ความรุ น แ ร ง อาการของเด็ กเมื่อถูกสปอยล์มากเกินไป

– อารมณ์ร้อน เกรี้ย วกร าด

บ่อยครั้งลูกมักแสดงอาการฉุนเฉียว กรีดร้อง โ มโ ห ร้ า ย อยู่บ่อยครั้ง

– ก ร ะ ทื บเท้า ปิดประตูเสียงดัง

ลูกมีอารมณ์ โ ม โ ห ร้ า ย อยู่บ่อยครั้ง มักระบาย อารมณ์ผ่านทางการทำล า ยข้าวของต่าง ๆ

– ต้องมีข้อแลกเปลี่ยนเสมอ

เมื่อคุณพ่อคุณแม่ต้องการให้ลูกทำอะไร มักสร้าง เงื่อนไขเพื่อเป็นแรงจูงใจให้ลูกปฏิบัติต าม แต่หาก ทำบ่อยครั้งอาจไม่เป็นผลดีต่อเด็ กได้ เพราะต้องสอน ให้ลูกรู้จักหน้าที่ มีระเบียบวินัยและสิ่งที่ต้องทำ

– หวงของ

คุณควรสอนให้เขารู้จัก แ บ่ ง ปั น สิ่งต่าง ๆ จะช่วย พัฒนาทักษะ ทางด้านอารมณ์และจิตใจ

**คำแนะนำที่ช่วยให้เลี้ยงดูเด็ กแบบไม่สปอยล์ลูก

กำหนดขอบเขตที่เหมาะสมกับวัยของลูกเพื่อให้เด็ก ๆ ใช้ชีวิตได้อย่ างเต็มที่ โดยคุณพ่อคุณแม่สามารถเริ่มได้ตั้งแต่ในช่วงวัยเตาะแตะ

– กำหนดขอบเขตด้านความปลอ ดภั ย ภายนอ ก

ตัวอย่ างเช่น ‘ อย่ าแตะต้องเตาร้อน ‘ และ ‘ อย่ าวิ่งเข้าไปในถนน ‘ ถ่ายทอ ดสิ่งที่เป็นที่ควรทำและไม่ควรทำ พูดคุยถึงเหตุผล บอ กถึงปัญหา ที่จะต ามมาหากทำสิ่งนั้น และเสริมสร้างพฤติกร ร มทางสังคมเชิงบวกใน ลักษณะเดียวกัน สั่งสอนลูกถึงสิ่งที่ควรปฏิบัติ เช่น กล่าวขอโทษและขอบคุณ หรือเล่นอย่ างอ่อนโยนกับเพื่อน ควรหมั่นเสริมสร้างพฤติกร รมเชิงบวกให้ลูก มากกว่าพฤติก ร ร มเชิงลบ

– พูดคุยกับลูกอย่ างเปิดเผยและมีเหตุมีผล

เกี่ยวกับพฤติกรร มเมื่อพวกเขาโตขึ้น เด็ กในวัยเรียนและวัยรุ่นสามารถ เข้าใจคำพูดได้ดีกว่าเด็ กเล็ก ดังนั้น ให้พย าย ามคิดพูดคุยปัญหาร่วมกัน เช่นเมื่อลูกทำผิด ให้คุณพ่อคุณแม่ถามลูกว่า ‘ ทำไมลูกถึงทำเช่นนี้ล่ะ ‘ เด็ก อาจไม่สามารถบอ กคุณได้ แต่ถ้าพูดว่า ‘ พ่อ/แม่สงสัยว่าทำไมสิ่งนี้ ถึงเกิดขึ้นอีก ‘ คำถามปล า ยเปิดอาจทำให้ลูกรู้สึกสะดวกใจ และเล่าให้ฟัง อย่ างไม่เกร็ งได้ คำตอบของลูกในบางครั้งอาจทำให้แปลกใจก็เป็นได้

– อยู่ในความสงบ ระงับสติอารมณ์

เมื่ออารมณ์เสี ย แม้แต่ผู้ใหญ่เอง ก็อาจแสดงพฤติก รรมที่ไม่ดีออ กมา จะทำให้คุณพ่อคุณแม่รู้สึก แ ย่และควบคุมตัวเองไม่ได้ และการแสดง พฤติกร รมไม่ดีเหล่านี้ ไม่ได้สอนให้เด็ กมีพฤติกร รมดีขึ้น แถมอาจทำ ให้เกิดพฤติก ร ร มเลียนแบบอีกด้วย

– คงเส้นคงวา เป็นตัวอย่ างที่ดีให้ลูกอย่ างสม่ำเสมอ

– มีกฎระเบียบร่วมกันที่ดี

เพื่อให้อยู่ร่วมกันอย่ างสงบสุขครอบครัว คือจุดเริ่มต้นของสังคม จึงควร มีกฎที่อยู่ในข้อตกลงร่วมกัน เพื่อให้ลูกปฏิบัติต ามและแจ้งให้ทราบว่าถ้า ลูกไม่ปฏิบัติต ามจะมีผลต ามมาสำหรับพฤติกร รมบางอย่ าง เช่น ถ้าลูกเล่น ของเล่นแล้วไม่เก็บ แม่จะเก็บของนี้แล้วไม่ให้เล่นอีกนะ หรือวางของเกะกะ อาจทำให้เกิด อุ บั ติ เ ห ตุ ได้ เป็นต้น

ที่มา the-wayoflife