ขอบคุณที่กล้าบอ กเลิกกัน ทำให้ชีวิตมีความสุขกว่าที่เคยมี

วันนี้เราอย ากที่จะพาเพื่อนๆ ไปเรียนรู้ข้อดีของการเลิกกันกับคนรักที่เขาไม่ได้เป็นได้เป็นอย่ างที่เรานั้นควาดหวังไว้ กับบทความ ขอบคุณที่กล้าบอ กเลิกกัน ทำให้ชีวิตมีความสุขกว่าที่เคยมี ไปดูกันว่าการเลิกกันทำไมถึงทำให้ชีวิตของเรานั้น มีความสุขเพิ่มมากขึ้นกว่าที่เคยมี

มีรุ่นน้องถามไถ่ว่า แปลกไหมที่เลิกกับแฟนแล้วไม่รู้สึกเศร้ากลับรู้สึกสันติ และได้เวลาส่วนตัวคืนกลับมา ผมถามกลับไปว่าแปลว่าเขาไม่สำคัญเหรอ น้องตอบว่าเขาสำคัญมาก แต่รู้สึกว่าต้องปรับเยอะต้องยอมให้เยอะ พอห่างออ กมากลับรู้สึกดี ผมคิดว่าเรื่องนี้น่าสนใจ และคำที่น่าสนใจมากคือคำว่า สันติผมเคยคิดว่าคนเราต้องการความสุ และ พย า ย ามทำทุกวิถีทางเพื่อไขว่คว้าให้ได้มา แต่ช่วงหลังมานี้ พอลองถามตัวเองให้ลึกลงไป

สิ่งที่ต้องการอาจไม่ใช่ ความสุข เเฮปปี้ แต่น่าจะเป็น ความสงบ peace of mind ซึ่งบางครั้งสองสิ่งนี้สวนทางกันยิ่งอย ากได้ความสุข หรืออย ากเก็บ รั ก ษ า ความสุขไว้ เรากลับกระวนกระวายใจ โลกนี้มีมาย าคติ มากมาย ที่พูดซ้ำๆ จนเราเชื่อว่ามันเป็นความจริง ความสัมพันธ์ที่ไม่เลิกรา ก็เป็นสิ่งหนึ่งในจำนวนเรื่องเหล่านั้น หรือความเชื่อว่า การเลิกกันคือเรื่องแ ย่ ก็อาจลวงให้ทั้งสองฝ่าย พย าย ามประคับประคองความสัมพันธ์

ที่ไม่ส่ งผลดีต่อทั้งคู่ไปเรื่อยๆเราอาจเชื่อว่า ความสุขคือ การอยู่ด้วยกันแน่นอน ถ้าทุกอย่ างราบรื่น คำกล่าวนี้ย่อมเป็นจริงแน่ แต่ถ้าไม่เป็นเช่นนั้นคำกล่าวนี้ก็ใช่ว่าจะเป็น สั จ ธ ร ร ม สำหรับทุกคน เพราะยิ่งพย าย ามประคับประคอง ความสุขไว้สิ่งที่เกิดขึ้นต ามมาคือภาวะข า ด สันติสุขในจิตใจและทันทีที่ปล่อยวางจากความเชื่อว่าจะต้องเก็บ รั ก ษ า ความสุข ในแบบที่ผู้คนเขาบอ กกัน ทันใดนั้นเรากลับพบว่า หัวใจของเรานิ่วสงบมากขึ้น เพราะไม่เอาใจไปผูกไว้

กับแบบที่เขาบอ กกันว่าดีแต่มันไม่ดีสำหรับเราการเลิกราหรือหย่ าร้าง หากเลือ กกระทำในช่วงเวลาและเหตุปัจจัยที่มีเหตุมีผล ตอบตัวเองได้ เป็นไปได้ว่ากลับทำให้เรามีความสุขมากกว่าการจมอยู่กับการพย าย าม แก้ปัญหาไม่รู้จบความสุข ที่ว่านั้นจึงเหมือน มีเรื่องที่ซ้อนกันอยู่ นั่นคือความสุขที่เราสัมผัสได้จากหัวใจตัวเองกับความสุขที่เกิดขึ้นจากค่านิยมหรือความคาดหวังจากคนอื่นที่มองว่า การเลิกราเป็นเรื่องน่าเสียดาย น่าเสียใจ น่าสง ส า ร และ

หล า ยกรณีที่เราพย าย าม รั ก ษ า ความสุขที่คนอื่นขีดเส้นให้โดยหลงลืมความสุข ในหัวใจตัวเองไปเมื่อคิดใคร่ครวญเรื่องนี้ ผมพบว่า การเลิกราเป็นเพียงตัวอย่ างหนึ่งของค่านิยมเรื่องความสุข ที่เรามักเชื่อว่าถ้าเป็นเช่นนั้นเช่นนี้แล้วจะมีความสุขกว่า เช่น ความร ว ย ความสำเร็จ รูปลักษณ์ที่ดี ชื่อเสียง ตำแหน่ง ฯลฯ แน่นอนว่า สิ่งเหล่านี้เป็นองค์ประกอบของ ชีวิตที่ดี แต่ก็ไม่เสมอไปถ้ามันเริ่มล้นเกิน หรือ

ทะเยอทะย านจนไปจะเผาไหม้หัวใจผมไม่ได้บอ กว่าเราไม่ควรปราถนาสิ่งเหล่านั้น เพียงอย ากชวนตั้งคำถามว่า ที่เรา อย ากได้อย ากมีนั้นเพราะหัวใจเรามีความสุขเมื่อมีสิ่งเหล่านั้น หรือเพราะคนอื่นเขาเชื่อว่า ถ้าเรามีสิ่งเหล่านั้นแล้ว เราจะมีความสุข เราอย ากมีความสุข หรือเราอย ากให้คนอื่น มองว่าเรามีความสุข สองสิ่งนี้คล้ายกัน แต่ต่างกันเหลือเกินคำถามที่น่าถามตัวเองลงไปลึกๆ ในหัวใจก็คือ ความสุข ที่เราเฝ้ามองและไขว่คว้า หรือ พย าย าม รั ก ษ า ไว้ ไม่ว่าจะเป็นความฝัน ความสำเร็จ การงาน หรือความรักถึงที่สุดแล้วมันนำมาซึ่ง ควสมสงบในจิตใจ หรื่อเปล่า ถ้าคำตอบคือ ไม่ผมคิดว่าวันหนึ่งเราจะพบคำตอบใหม่ให้กับตัวเองว่า

ฉันจะลองปล่อยมือจาก ความสุข ดูบ้างก็ได้ เพื่อพบสิ่งที่สำคัญกว่านั้นท นั่นคือ ความสงบในจิตใจบางครั้งเราจำเป็นต้องปล่อยมือจากสิ่งที่เราเชื่อว่านั้นคือ ความสุข เพื่อพบกับ สันติ ในหัวใจและนั่นคือสิ่งที่ผมได้เรียนรู้ จากคำถามของรุ่นน้องผู้นี้ว่าการเลิกราไม่ใช่เรื่องน่าเศร้า หากมันทำให้เราพบหัวใจสงบกว่าเดิม

ที่มา bangpunsara, staylifeth