จงรักกันในความดี ให้อภั ยกัน เราไม่รู้จะอยู่ด้วยกันได้อีกนานแค่ไหน

วันนี้เราจะพาเพื่อนๆ ไปเรียนรู้การใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันให้คุ้มค่าและมีความสุขที่สุด โดยไม่ต้องคิดเลยว่าหากวันใดที่ไม่ได้อยู่ด้วยกันแล้ว จะไม่มีโอกาสไม่ได้ทำ กับบทความ จงรักกันในความดี ให้อภั ยกัน เราไม่รู้จะอยู่ด้วยกันได้อีกนานแค่ไหน

คุณคิดว่า คนเราจะอยู่ด้วยกันนานแค่ไหน อยู่ด้วยกันได้กี่วัน อย่ าให้อะไรมันสายเกินไป เพราะเชื่อว่า ไม่มีใครรู้หรอ กว่า คนเราจะมีชีวิต อยู่ด้วยกันอีกกี่วัน ฉนั้นวันนี้ เรามีเรื่องราว ที่ให้ข้อคิดว่าจงรักและให้อภั ยกัน อย่ าเอาเรื่องเล็กๆน้อยๆมาทำให้ชีวิตต้องพัง เพราะไม่รู้ว่า คนเราจะมีชีวิต อยู่ด้วยกันสักกี่วัน

เรื่องมีอยู่ว่า เช้าวันนึง ภรรย าบอ กกับสามี ของเขาว่า ในวันนี้นั้น ฉันจะกลับบ้านนะ เพื่อไปเยื่ยมแม่ แล้วคุณจะขับรถ ไปส่ งฉันหน่อยจะได้ไหม เพราะฝนตกหนักแบบนี้ จะให้ขึ้นรถโดยสาร มันคงไม่สะดวก สามีของเธอนั้น หน้าต าบูดบึ้ง มาตั้งแต่เช้า

และเขาก็ไม่ตอบภรรย า กระช ากเสียง ถามภรรย ากลับไปว่า เมื่อวาน เธอซื้ อเสื้อใหม่หรอ เธอรับปากฉันแล้วนี่ ว่าจะไม่ใช่เงิ นฟุ่มเฟือย เหมือนเมื่อก่อนน่ะ เรายังต้องผ่อนบ้าน ผ่อนรถ ทั้งยังส่ งลูกเรียนค่าใช้จ่ายเยอะแยะ มากมาย แต่ทำไมกันล่ะ ไม่ช่วยกันประหยัด ฉันไม่เข้าใจ และทันใดนั้น ภรรย าของเขา ก็ได้พูดออ กมาอย่ างคนรู้สึกผิดว่า

อ้อที่แท้คุณโ ก ร ธเรื่องนี้เองหรอ และตอนนั้นภรรย าก้มหน้า จัดเสื้อผ้าตัวเองต่อไปเงียบๆ และกับบอ กสามีว่า ในวันนี้นั้น มัน มีรถโดยสารเข้าเมืองเที่ยวเดียว และฉันคงต้องรีบไปแล้ว คุณไม่ต้องไปส่ งก็ได้ จากนั้นเธอก็ออ กบ้านไป โดยที่สามีไม่สนใจเธอเลย

เพราะยังโ ก ร ธเธออยู่มาก และประมาณครึ่งชั่ วโมงผ่านไป สามีของเขา ได้ยินเสียงเอะอะบนถนน เลยได้ออ กไปดู จึงได้ยินผู้คนตะโกนกันว่า ฝนที่ตกหนัก มันเซาะตลิ่ง จนสะพานเข้าเมืองได้ข า ดลง มีรถเมล์คันนึง มันตกลงไปในน้ำด้วย เมื่อสามีได้ยิน ก็ตกใจมาก จึงกระโดดออ กจากบ้านไปทันที

พอไปถึงแม่น้ำ รถเมล์ที่ถูกเก็บขึ้น จากน้ำมัน ก็เหลือเพียงซากเหล็ก สัมภาระกระเป๋าต่างๆ กระจัดกระจาย มีการหามร่างของผู้เสี ยชี วิต มากมายขึ้น มา จากแม่น้ำ ทันใดนั้นช ายหนุ่ม ก็ได้แต่เฝ้ามองหาภรรย า แต่ก็ไม่พบสักที เขาเสียใจ เจียนสิ้นสติ

เฝ้าถามหน่วยกู้ภั ย ที่ทำงานอยู่ตรงนั้น ว่าเห็นภรรย าผมบ้างไหมครับ ใส่เสื้อสีแดง กางเกงสีดำ และทุกคนส่ายหน้า บอ กว่าไม่เห็นเลย เมื่อเวลาผ่านไปเกือบเย็น จนถึงเวลาที่กู้ภั ยหยุดทำงาน เพราะไม่มีผู้เสี ยชี วิต ที่หาพบแล้ว จึงบอ กช ายหนุ่มว่า หักห้ามใจเถอะนะพ่อหนุ่ม ภรรย าคุณคงโดนน้ำพัดไปไกลแล้ว เพราะเราหาไม่เจอเลย

ช ายหนุ่มเดินกลับบ้าน แบบคนไม่มีวิญญาณ คร่ำครวญไปตลอ ดว่า ทำไมๆๆเราไม่ขับรถไปส่ งเธอ ไปด่าเธอทำไม ว่าใช้เงิ นฟุ่มเฟือย มันก็แค่เสื้อตัวเดียว ไม่น่าเลย แต่พอ กลับถึงบ้าน คาดไม่ถึงว่า ภรรย ากลับนั่งอยู่ที่โต๊ะอาหาร และยังมีอาหารอยู่บนโต๊ะอีก ในมือเธอมีเสื้อ กันหนาว เก่าๆตัวหนึ่ง

และเธอ กำลังเย็บ ซ่อมช ายเสื้อที่รุ่ยอยู่ เธอพูดขึ้นว่า คุณไปไหน มาคะ ภรรย ายังพูดไม่ทันจบเลย สามีก็ตรงเข้าไปกอ ดเธอจนแน่น เป็นอะไรร้องไห้ทำไม เพราะวันนี้ฉัน มัวเอาเสื้อ ไปคืนที่ร้าน เสียเวลาอ้อนวอน ให้เขารับคืนก็เลยไปขึ้นรถเมล์ไม่ทัน และอากาศก็จะหนาวแล้ว ฉันก็เลยรื้อเสื้อเก่าๆ มาซ่อมให้มันพอใส่ได้ อีกหล า ยปีนะ

ฉันนี่มันแย่จริงๆ ของเก่าก็ยังมี ซื้ อของใหม่มา ทำไมก็ไม่รู้ กับเรื่องบางเรื่องนั้น เราโ ก ร ธจนลืมไปว่า มันไม่สำคัญ เท่ากับความสุขของเรา และเรื่องบางเรื่อง

มันไม่สำคัญเท่าความสุข ของคนที่เรารักเลย เราทุกคน มีเวลาในโลกนี้จำกัด และเวลาที่ใช้ร่วมกัน มันก็ยิ่งจำกัด อะไรที่ไม่สำคัญมากพอ เราก็อย่ านำมาเป็นอารมณ์ เพราะเราไม่รู้ว่า จะได้อยู่ด้วยกันอีกนานเท่าไหร่

ที่มา san-sabai, stand-smiling