จงสอนให้ลูกลงมือทำ มากกว่าเรียนในตำรา

วันนี้เราอย ากที่จะพาเพื่อนๆ ไปเรียนรู้ข้อคิดการเลี้ยงลูกกับบทความ จงสอนให้ลูกลงมือทำ มากกว่าเรียนในตำรา ไปดูกันว่าทำไมควรสอนลูกให้รู้จักลงมือทำ มากกว่าการเรียนแค่ในตำรา

มีเรื่องเล่าจากครอบครัวหนึ่ง ลูกชายที่อยู่ในช่วงวัยรุ่น ได้ขอเงินแม่ไปเที่ยวข้างนอ กกับเพื่อน แม่จึงบอ กว่า ‘ ลูกรู้ไหมว่า สมัยก่อนตอนที่แม่อายุเท่าลูก ไม่เคยได้ไปเที่ยวแบบ ลูกหรอ กนะ แม่ต้องคอยหางานทำ อะไรที่ได้เงินก็ทำหมด พับถุงกระดาษข า ยตัดใบตองส่ งตลาดให้แม่ค้า เพราะเงินทอง เป็นของห า ย ากกว่าจะหามาได้แต่ละบาท แม่ไม่ได้มีเงินให้ขอแบบสมัยนี้หรอ ก ลูกก็ได้แต่เงียบฟังแม่ แม่ก็เล่าต่ออีกว่าลูกต้องรู้จักความลำบากบ้าง ต้องรู้จักประหยัด รู้จักใช้เงิน ไม่อย่ างนั้น จะลำบากขึ้น รถเมล์ก็ยังไม่เป็นแล้วจะเอาตัวรอ ดยังไง

เมื่อแม่สอนแกลมบ่นเล็กๆ ก็ยื่นเงินให้ลูก ซึ่งนี่คงเป็นสิ่ง ที่พ่อแม่หล า ยคน มักจะทำเวลาที่ลูกขอเงิน จะคอยเล่าเรื่องราวในอ ดีตที่ตัวเองเคยประสบพบเจอ มาในช่วงอายุเท่ากันแล้วค่อยให้เงินลูกไป เพื่อให้ลูกได้เรียนรู้ และเข้าใจถึงคุณค่าของเงินให้มากกว่านี้สมัยนี้พ่อแม่กลัว แต่ลูกจะลำบาก กลัวลูกจะไม่สะดวก สบาย เลยต้องหาทุกอย่ าง มาประเคนให้ลูกหมด ลูกไม่ต้องทำอะไรเลย เพราะพ่อแม่ เก็บไว้ให้หมด แล้วซึ่งแตกต่าง จากสมัยก่อน มาก ที่ไม่มีใครหามาให้

อย ากได้อะไรก็ต้องทำงานเก็บเงินหามาเอง ไม่มีคำว่ามรดก ทุกอย่ าง ต้องใช้หนึ่งส ม อ ง และสองมือที่มีที่พ่อแม่ส่วนใหญ่ ให้ลูกทั้งหมด มักเกิดจากการที่ไม่มีตอนเด็ก จึงอย ากให้ลูกมี ไม่ต้องลำบาก เหมือนตัวเอง สะท้อน ถึงสิ่งที่ตัวเองอย ากจะได้ในตอนเด็ก

แต่การที่เลี้ยงลูก โดยไม่ให้เจอ กับความลำบาก จะกล า ยเป็นการสร้างความลำบาก ให้ลูกตอนโตมากกว่าสร้าง นิสัยที่ไม่สู้งานหนัก ไม่เอาเบาไม่สู้ เพราะเคยได้อะไรแบบง่ายๆ มาตลอ ดใครๆ ก็รักลูก แต่ต้องรู้จักวิธีรักลูกให้เป็นด้วย ตัวอย่ าง จาก วอร์เรน บัฟเฟตต์ ที่เป็น มหาเศรษฐีลำดับต้นๆ ของโลก ได้สอนลูกหลานของเขาว่า ‘ ลูกๆ จะต้องเผชิญกับปัญหาและหนทางของพวกเขาเอง ถึงแม้ลูกๆ จะรู้ว่า มีพ่อผู้เป็น มหาเศรษฐี คอยช่วยเหลืออยู่เบื้องหลัง แต่ก็ต้องลงมือ ลงแรงทำด้วยตัวเอง’ บัฟเฟตต์ได้ให้มรดกแก่ลูกหลาน แค่พอประมาณ เพราะเขาไม่ต้องการให้ลูกรัก สบายจนเกินไป เขามีความคิด ที่ว่าผมจะให้เงินกับลูกๆ

ในจำนวนที่มากพอ ที่เขาจะสามารถนำ ไปทำอะไรต่อได้ แต่ไม่มากพอที่พวกเขาไม่ต้องทำอะไรเลย นั่นเป็นความคิดของคนที่เป็นถึงเศรษฐี อันดับต้นๆ ของโลกที่ไม่ต้องทำอะไรก็ยังมีกิน มีใช้ได้ทั้งชีวิต แต่เขากลับไม่สอนลูกหลาน แบบนั้น เพราะเขารู้ดีว่า การให้ที่มากจนเกินไป เป็นเรื่องที่อันตราย และเป็นการทำร้ า ย ลูกทางอ้อมสิ่งที่ควรให้ลูก มากกว่าเงิน คือ การที่ให้เขามีโอกาสที่จะได้เรียน มีวิชาความรู้ ติดตัวมากพอ ที่เขาจะสามารถใช้ชีวิต และเอาตัวรอ ดได้ ถ้าหากวันหนึ่ง คุณไม่ได้อยู่คอยช่วยเหลือเขาจากข้างหลัง คุณก็สามารถที่จะมั่นใจได้ว่าลูกๆ จะอยู่ได้ด้วยลำแข้งของตัวเอง

ที่มา dhammasawatdee