จงอย่ าใช้ชีวิตด้วยการรู้เรื่องของคนอื่น ยกเว้นเรื่องของตัวเอง

วันนี้เราอย ากที่จะพาเพื่อนๆ ไปเรียนรู้ข้อคิดการใช้ชีวิตกับบทความ จงอย่ าใช้ชีวิตด้วยการรู้เรื่องของคนอื่น ยกเว้นเรื่องของตัวเอง ไปดูกันว่าข้อคิดจากบทความนี้ จะช่วยทำให้ชีวิตของเรานั้นนิ่งขึ้น และมีความสุขได้เช่นไร

อย่ าเป็นคนที่รู้ทุกเรื่อง ยกเว้นเรื่องของตัวเอง อย่ าเป็นคนที่รู้ทุกอย่ าง ยกเว้นเรื่องจริง ในขณะที่เราเปิดเพจดูว่า ร่างทรงนั้นของจริงไหม เพื่อนเรากำลังโพสต์ขา ยกระเป๋า ที่รับมาจากตลาดได้ 2 ใบกำไร 400 ในขณะที่เรานั่งจิบเบียร์เชียร์บอล หลังเลิกงาน เพื่อนที่ทำงานไปเปิดแผงข ายเสื้อผ้า ที่ตลาดนัด 5 ทุ่ม เราขับรถออ กไปซื้ อมาดื่มเพิ่ม โดนด่านไป 5 พัน 5 ทุ่ม เพื่อนเก็บแผงกลับบ้านได้กำไร จากข ายเสื้อผ้า 1,500ในขณะที่เรา เฝ้าลุ้นว่าใคร เป็นฆ า ตก ร เป็นคนร้า ย เพื่อนได้ทำงานที่หัวหน้ามอบหมายเสร็จ แล้วในขณะที่เรา กำลังพิมพ์เถียงทะเลาะกับใครก็ไม่รู้ในเพจ เพราะความคิดเห็นไม่ตรงกัน

ที่เถียงไปแค่อย ากจะเอาชนะเพื่อน พิมพ์ตอบลูกค้า ที่สั่งซื้ อของในแชท เฟสได้กำไรมา 3,000 ในขณะที่เราพิมพ์บ่นลงในเฟสว่า ค่าครองชีพแพง เพื่อนพิมพ์ลงกลุ่ม ซื้ อ ขา ยรองเท้าผ้าใบมือสอง โพสต์ข ายแป็บเดียว กำไร 200 บาท ในขณะที่เราต ามแสดง ความคิดเห็นทุกประเด็นในเพจต่างๆ เพื่อนเราเปิดเพจ ขา ยของเพื่อสร้างช่องทางการตลาดเพิ่ม ในวันที่เงิ นเดือนออ ก เราไปกินร้านบุฟเฟ่ ปิ้งย่ างสุดหรูในห้าง กลางเดือนกินข้าวแกงข้างทาง

ปล ายเดือน มาก็มาม่าย าวๆ ขณะที่เพื่อนเอาเงิ น มา เก็บออมศึกษา ช่องทางการลงทุนเพิ่ม กินข้าวแกงข้างทางตลอ ดเดือน เลยได้รับสารอาหารครบถ้วนตลอ ดเดือน ทำให้สมองพัฒนา และปลอ ดโปร่งพอที่จะคิดไอเดียดีๆออ ก ในขณะที่เราเอาแต่บ่นว่า ทำไมเ งินไม่พอใช้ นี่เ งินเดือนหรือเงิ นทอนเพื่อนคนนั้น กำลังเอาเงิ นจากการทำงานเสริมเดือนนี้ 20,000 เข้าบัญชี ทีนี้รู้เรื่องของตัวเองมากกว่า เรื่องของคนอื่นหรือยัง?

รู้หรือยังว่าทำไมเรายังจนอยู่ เพราะเราทำตัวเราเองทั้งนั้นแหละ เพื่อนคนนั้น มันก็ไม่ได้เก่งกว่าเราหรอ ก แต่เราต่างหากที่ทำตัวเองกระจอ ก แล้วก็มัวแต่โทษคนอื่น โทษเกิดมาจน โทษโชคชะต า โทษนายจ้าง โทษทุกคนยกเว้นโทษตัวเอง พอเพื่อนเลื่อนตำแหน่ง ก็หาว่า ‘เลียนาย’ พอเพื่อนได้ขึ้นเป็นหัวหน้า ก็หาว่า’ทิ้งเพื่อน’ เพื่อนชวนไปข ายของตลาดนัด ‘บอ กไม่ว่าง’ไม่ว่างหรอ? เพื่อนแนะนำให้ขา ยออนไลน์’บอ กไม่มีเงิ นทุน’ สุดท้ายคุณภาพชีวิตของทั้งสองคน ก็ค่อยๆห่างกันออ กไป คนหนึ่งมีชีวิตที่ดีขึ้น ไปมีสังคมใหม่ๆที่แวดล้อมไปด้วย ‘คนขยันทำมาหากิน’

อีกคนเอาแต่โทษโชคชะต าฟ้าดิน ‘โทษว่าเพื่อนได้ดีแล้วทิ้งกัน’ เราเสียเวลาไปกับเรื่องที่ไม่มีประโยชน์ ชีวิตเราจึงไม่มีอะไรดี และไม่มีประโยชน์อะไร คนล้มเหลวทำแต่เรื่องไม่มีประโยชน์ ก็เลยหาประโยชน์อะไรไม่ได้ คนล้มเหลวคิดแต่เรื่องไม่ได้เงิ น ชีวิตก็เลยไม่มีเงิ น คนล้มเหลวมีแต่เรื่องใช้เงิ น แต่ไม่คิดหาเงิ นเพิ่ม ก็เลยขัดสนอยู่อย่ างนั้น นั่งก้มหน้าอ่ านแต่ดราม่า เงยหน้ามาอีกที เพื่อนเป็นผู้จัดการแล้ว นั่งก้มหน้ายุ่งแต่เรื่องช าวบ้านเงยหน้ามาอีกที่

เพื่อนเปิดกิจการเป็นของตัวเองไปแล้ว ก้มหน้านั่งเถียงกับทุกคน ที่ไม่เห็นด้วยกับตัวเอง ระวังว่า….เงยหน้าขึ้น มาจะถูกไล่ออ ก เชื่อผมเถอะว่า…ไม่มีอะไรเ จ็ บป ว ดเท่ากับการที่อายุ 40-50 เพื่อน มีหน้าที่การงานที่มั่นคง ดูแลซัพพอร์ตครอบครัวได้หมด แต่เรายังอยู่ที่เดิมอย ากมีชีวิตแบบไหน เลือ กเอาเองตัวใครตัวมันอยู่แล้ว

ที่มา คุณสิริทัศน์สมเสงี่ยม, yakrookaset