สิ่งที่เกิดขึ้นหลังตวาดใส่ลูกบ่อย

วันนี้เราจะพาคุณพ่อคุณแม่ไปเรียนรู้สิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากพ่อแม่ตวาดใส่ลูกทุกวัน กับบทความ สิ่งที่เกิดขึ้นหลังตวาดใส่ลูกบ่อย ไปดูกันว่าจะส่ งผลเสียอะไรกับลูกบ้าง เมื่อพ่อแม่ทราบผลเสียแล้วจะต้องปรับปรุงตัวอย่ างไรบ้าง

รู้หรือไม่? ยิ่งพ่อแม่ ตวาดใส่ลูก บ่อย ๆ อาจส่ งผลเสียต่อพัฒนาการสมอง รวมไปถึงอารมณ์และพฤติก ร ร มของลูกได้ ถ้าพ่อแม่กำลังโ ก ร ธ หรือโมโหลูก จะมีวิธีควบคุมอารมณ์ตัวเองอย่ างไรไม่ให้ ตวาดใส่ลูก ต ามมาดูกันเลย

ผลเสียของการที่พ่อแม่เผลอ ตวาดใส่ลูก

เวลาที่คุณพ่อคุณแม่เกิดความรู้สึกหงุดหงิด ลูกงอแง ไม่เชื่อฟัง จนคุณแม่เผลอ ใช้อารมณ์กับลูก ตวาดใส่ลูก ไม่ว่าจะด้วยความตั้งใจหรือไม่ก็ต าม ล้วนเป็นสิ่งที่ ส่ งผลต่ออารมณ์และพฤติก ร ร มของลูกทั้งนั้นค่ะ เพราะการตวาดใส่ลูก ให้ผลเสีย มากกว่าที่คิด!! ทีมแม่ จึงมีข้อมูลเกี่ยวกับผลเสียของการตวาดใส่ลูก รวมไปถึงวิธี ในการควบคุมอารมณ์สำหรับคุณพ่อคุณแม่มาฝากค่ะ

ตวาดใส่ลูก ทำให้ลูกเสียใจ

คุณหมอประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์ จิตแพทย์แผนกจิตเวช โรงพย าบาลเชียงราย ประช านุเคราะห์ กล่าวไว้ว่า… เมื่อคุณพ่อคุณแม่ตวาดใส่ลูก ไม่ว่าจะด้วยความตั้ง ใจหรือไม่ก็ต าม สิ่งที่ต ามมาก็คือ ‘ลูกเสียใจ’ แน่นอน!! แต่จะมากน้อยแค่ไหน

หรือคงอยู่นานเท่าไหร่ ต้องดูเป็นกรณีไป

หากเชื่อในทฤษฎี จิตวิเคราะห์ ( Psychoanalysis ) ความเสียใจนั้นจะถูกซ่อนไว้ใน จิตใต้สำนึก ถ้าไม่มากก็ไม่เป็นอะไร แต่หากมากเกินไปหรือสะสมไปเรื่อย ๆ จะเป็น บ่อเกิดของพย าธิสภาพทางจิตใจ หรืออาจไปรบกวนการสร้างซูเปอร์อีโก้ ( Superego ) ซึ่งจะเป็น มาตรฐานทางศีลธรรมหรือจริยธรรม หรือข้อปฏิบัติของเด็ก ๆ ที่จะเจริญ

รอยต ามพ่อแม่ในวันข้างหน้า ในเด็กที่อายุมากกว่า 5 ขวบ ความเสียใจนั้นอาจจะพุ่งเข้ามาภายในแล้วทำ ร้ ายจิตใจเกิดเป็นบ าดแ ผลตรง ๆ หากบาดแผลไม่มากก็ห า ยเองได้เหมือน แผลถลอ ก น้อยมากก็ไม่มีแผลเป็น มากหน่อยก็อาจจะเป็นแผลนิดหน่อย ทำซ้ำ ๆ ก็ย่อมเกิดเป็นแผลเป็น และหากแผลใหญ่มาก ความเ จ็ บป ว ดก็อาจจะ มากและนาน เป็นต้นเหตุของอารมณ์เศ ร้าได้

สำหรับเรื่องนี้สถาบันสุขภาพแห่งช าติของสหรัฐอเมริกา หรือ NIH ได้ออ กมาเผยแพร่ งานวิจัยเกี่ยวกับการตวาดใส่ลูก ที่ชี้ให้เห็นว่าการตะโกน หรือตวาดใส่ลูก ทำให้เด็กก้าว ร้าวมากขึ้นทั้งร่างกายและคำพูด การตะโกนเสียงดังไม่ว่าจะเกี่ยวข้องกับความโ ก ร ธ หรือไม่ ย่อมทำให้เด็กกลัวและรู้สึกไม่ปลอ ดภั ย นอ กจากนี้ยังมีการศึกษามากมายเกี่ยวกับผลเสียจากการตวาดใส่ลูก ทีมแม่ ได้รวบรวมมาไว้ให้คุณพ่อคุณแม่ได้ลองอ่านทั้งหมด 5 ข้อ ดังนี้ค่ะ

1 ยิ่งตวาดใส่ลูก พฤติก ร ร มลูกยิ่งแย่ลง

คุณพ่อคุณแม่อาจคิดว่าการตวาดใส่ลูกจะช่วยแก้ปัญหาพฤติก ร ร มที่ไม่ดีของลูกได้ และ ทำให้ลูกไม่มีพฤติก ร ร มดังกล่าวอีกในอนาคต แต่งานวิจัยจากสมาคมวิจัยเพื่อ การพัฒนา เด็ก ( SRCD ) ของประเทศสหรัฐอเมริกา ให้ข้อมูลที่ตรงกันข้าม เพราะการตวาดใส่ลูกจะ ยิ่งทำให้เกิดปัญหาในระยะย าว ทำให้ปัญหาพฤติก ร ร มของลูกแย่ลงเรื่อย ๆ

2 การตะโกน ตวาดใส่ลูก ส่ งผลต่อ การพัฒนาสมองของลูก

การตะโกน ตวาดใส่ลูก หรือ ใช้วิธีการอบรมลูกที่รุนแรงของพ่อแม่ ส่ งผลต่อพัฒนาการ ทางสมองของลูกด้วยนะคะ นั่นเพราะว่าสมองของมนุษย์มีการประมวลผลเหตุการณ์ที่ แย่ได้รวดเร็วกว่าเหตุการณ์ที่ดีค่ะ งานวิจัยชิ้นหนึ่งจากสถาบัน NIH ได้ทำการศึกษา เปรียบเทียบผลการสแกน MRI สมองของผู้ที่มีประวัติการใช้คำพูดรุนแรงในครอบครัว ในวัยเด็ก กับผู้ที่ไม่เคยมีประวัติดังกล่าว พบว่ามีความแตกต่างอย่ างชัดเจนในสมองส่วน ที่ประมวลผลเกี่ยวกับเสียงและภาษา

3 การตวาดใส่ลูก นำไปสู่ภาวะซึมเศร้า

นอ กจากจะรู้สึกเ จ็ บป ว ด เสียใจ และกลัวเวลาที่ถูกตวาดแล้ว การตวาดใส่ลูกอาจนำไปสู่ ปัญหาทางสุขภาพจิตเมื่อลูกโตเป็นผู้ใหญ่ด้วย งานวิจัยหล า ย ชิ้นจากสถาบัน NIH แสดง ให้เห็นว่ามีความเชื่อมโยงระหว่างความรุนแรงทางอารมณ์ที่เด็กเคยเผชิญกับภาวะซึม เศร้าหรือความวิตกกังวล ซึ่งอาการเหล่านี้สามารถนำไปสู่พฤติก ร ร มที่แย่ลงในอนาคต

4 การตวาดใส่ลูก ส่ งผลต่อสุขภาพร่างกาย

งานวิจัยจากสถาบัน NIH บอ กว่าความเครียดในวัยเด็กที่เกิดขึ้นจากการที่ผู้ปกครองใช้ คำพูดรุนแรง สามารถเพิ่มความเสี่ยงทางปัญหาสุขภาพบางอย่ างของเด็กได้ในระยะย าว

5 การตะโกน ตวาด อาจเป็นสาเหตุของอาการป ว ดเรื้อรัง

นอ กจากจะส่ งผลต่อสุขภาพจิตแล้ว ยังมีงานวิจัยจากสถาบัน NIH ที่ว่า การที่เด็กเติบโต มาด้วยประสบการณ์ในแง่ลบ เช่น โตมาในครอบครัวที่ใช้คำพูดรุนแรง อาจนำไปสู่อาการ ป ว ดเรื้อรังต่าง ๆ อาทิ ป ว ดศีรษะ ป ว ดคอและหลัง รวมไปถึงปัญหาไขข้อต่าง ๆ ด้วยค่ะ เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดต ามที่

สอนลูกอย่ างไรโดยไม่ใช้อารมณ์

เป็นเรื่องปกติที่คุณพ่อคุณแม่จะหงุดหงิดกับลูก ๆ โดยเฉพาะอย่ างยิ่งเมื่อลูกทำพฤติก ร ร ม ที่ไม่เหมาะสม สิ่งสำคัญก็คือ การรับมือ กับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นด้วยวิธีที่ถูกต้อง เพราะการ แสดงออ กของคุณพ่อคุณแม่ส่ งผลสำคัญต่อ การพัฒนาบุคลิกภาพและสุขภาพในระยะย าว ของลูกเสมอ มาดูวิธีการควบคุมอารมณ์ของตนเองในย ามหงุดหงิด รวมไปถึงเทคนิคที่ใช้

สอนลูกอย่ างได้ผลกันดีกว่าค่ะ

1 ขอเวลานอ ก

ถ้าหากว่ารู้ตัวว่ากำลังจะควบคุมอารมณ์และน้ำเสียงไม่ไหว ทางเลือ กที่ดีก็คือ ‘การขอเวลานอ ก’ ให้ตัวเองค่ะ พาตัวเองออ กมาจากสถานการณ์ตรงนั้นสักครู่ แล้วห า ย ใจเข้าออ กลึก ๆ วิธีนี้นอ กจากจะช่วยให้ใจเย็นลงแล้ว ยังเป็นตัวอย่ างที่ดีในการสอนให้ลูกรู้ จักควบคุมและจัดการอารมณ์ของตัวเองด้วย

2 พูดกับลูกตรง ๆ เกี่ยวกับความรู้สึก

ความโ ก ร ธ เป็นอารมณ์ปกติของมนุษย์ทุกคน เช่นเดียวกับความสุข ความเศร้า การพูดคุย กันอย่ างเปิดเผยจะเป็นการสอนให้ลูกได้เรียนรู้และรู้จักจัดการอารมณ์ของตัวเอง นำไปสู่ การพัฒนาทัศนคติที่ดีต่อทั้งตนเองและผู้อื่น

3 จัดการกับพฤติก ร ร มไม่ดีอย่ างใจเย็น แต่หนักแน่น

ลูกอาจมีพฤติก ร ร มที่ไม่เหมาะสมบ้าง เป็นส่วนหนึ่งของการเติบโต วิธีที่เหมาะสมคือ การ พูดให้ลูกเข้าใจอย่ างชัดเจนว่าการกระทำดังกล่าวไม่ดีอย่ างไร โดยคุณพ่อคุณแม่อาจ เข้าไปนั่งใกล้ ๆ หรือพูดคุยกับลูกในระดับสายต าแทนการยืนพูดในระดับที่สูงกว่าหรือพูด จากที่ไกล ๆ ก็ได้ค่ะ

4 ตักเตือน ดีกว่า ตวาด

อย่ างที่ได้กล่าวไปแล้วว่าการตวาดหรือ การใช้อารมณ์จะยิ่งส่ งผลที่ไม่ดีแก่ลูก ดังนั้น การ ตักเตือนด้วยเหตุผลจะทำให้ลูกเชื่อฟังมากกว่านะคะ ยกตัวอย่ างเช่น เตือนลูกว่าของเล่น มีไว้เล่น ไม่ได้มีไว้ใช้ตีกัน หากลูกไม่เชื่อ ค่อยยึดของเล่นนั้น มา

5 บอ กด้วยความนิ่ง สงบ เอาจริง แล้วเงียบ

คุณหมอประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์ แนะนำว่า … หลักของการปรับพฤติก ร ร มที่ได้ผลดีข้อ หนึ่ง คือ การสูญพันธุ์ ( Extinction ) กล่าวคือ เราต้องจับคู่พฤติก ร ร มอันไม่พึงประสงค์กับ ความเงียบ ( Silent ) ด้วยข้อเท็จจริงที่ว่า เมื่อเราจับคู่พฤติก ร ร มใด ๆ กับความเงียบอยู่เรื่อย ๆ

ทำอะไรก็ไม่มีอะไรตอบสนอง พฤติก ร ร มนั้นก็จะห า ยไปเอง หลักการข้อนี้ใช้กับเด็กเล็กได้ผลเสมอ ขึ้นอยู่กับคุณพ่อคุณแม่แล้วล่ะค่ะ ว่าจะมีความพย าย าม และความอ ดทนเพียงใด การตวาดใส่ลูก อาจเป็นการกระทำที่เกิดขึ้นภายในเวลาสั้น ๆ แต่ส่ ง ผลกระทบต่อจิตใจของลูกในระยะย าว นอ กจากจะไม่ช่วยให้ลูกมีพฤติก ร ร มที่ดีขึ้นแล้ว ยังทำ

ให้เกิดผลเสียต ามมาในหล า ย ๆ ด้าน ดังนั้น การพูดคุยกับลูกด้วยเหตุผล ค่อย ๆ สอนให้ลูก เข้าใจถึงพฤติก ร ร มนั้นว่าไม่ดีอย่ างไร ย่อมเป็นวิธีการที่ดีที่จะทำให้ลูกเติบโตมาอย่ างมีความสุข และทำให้ทั้งครอบครัวมีความสุขด้วยนะคะ

ที่มา meokayna