หากวันพรุ่งนี้ต้องข า ดพ่อแม่ ชีวิตของลูกจะเป็นเช่นไร

วันนี้เราก็มีบทความข้อคิดดีๆ มาแนะนำให้กับคนที่เป็นลูกๆ ทุกคนได้อ่ า น กับบทความ หากวันพรุ่งนี้ต้องข า ดพ่อแม่ ชีวิตของลูกจะเป็นเช่นไร ไปดูกันว่าบทความนี้จะให้ข้อคิดอะไรกับลูกได้บ้าง

ขึ้นชื่อว่าพ่อแม่ ต่อให้ลูกจะอายุเพิ่มมากขึ้น ซักเท่าไหร่ ก็ยังเป็นลูกตัวน้อยสำหรับเค้าอยู่เสมอ พ่อแม่ส่วน มากแล้ว เมื่อมีลูกก็ต้องการดูแลลูกอย่ างดี ต้องการให้ลูกๆ ของตัวเองนั้นได้มีชีวิต ความเป็นอยู่ มีการศึกษาและมีอนาคตที่ดีกว่า ตนเองด้วยกันทั้งนั้น น้อยนักที่จะมีพ่อแม่คนไหน

ที่ต้องการหรือยอมให้ลูกของตัวเอง นั้นลำบากลูกนั้นเปรียบได้กับแก้วต าและหัวใจของพ่อแม่ หล า ยคนที่เมื่อมีลูก ก็ต้องการสร้างครอบครัวที่อบอุ่น ต้องการให้ลูกของเรานั้นได้รับความสุข สะดวกสบายในทุกๆด้าน ไม่ว่าจะเป็นด้านชีวิตความเป็นอยู่ที่สุขสบาย เงินทองที่ใช้จ่ายได้

ต ามใจปรารถนา พร้อมทั้งการศึกษาที่ดีในสถาบันที่มีชื่อเสียงความสมบูรณ์ แต่ก็ยังมีอีกหล า ยครอบครัวที่ไม่ได้เป็นดังที่เรากล่าวมาข้างต้น ยังมีพ่อแม่อีกมาก

ที่ไม่พร้อมจะมีลูกต้องนำลูกไปทิ้งหรือนำไปฝากไว้ที่อื่น และก็ยังมีพ่อแม่อีกมากที่ไม่ได้ คำนึงถึงอนาคตของลูก ปล่อยให้ลูกต้องอยู่อย่ างโดดเดี่ยว ไม่มีคนคอยช่วยประคับประคอง

ไม่ว่าจะเป็นทั้งทางร่ างก ายและจิตใจ สำหรับใครที่ยังมีครอบครัวที่คอยเข้าใจ คอยดูแลอยู่นั้นนับว่าเป็นสิ่งที่ดีอย่ างมากเคยคิดกันไหมว่าหากพรุ่งนี้ไม่มีแม่อยู่แล้ว จะเป็นอย่ างไร โบราณว่าไว้ หากข า ดพ่อเหมือนถ่อหัก ข า ดแม่เหมือน แพ แ ต ก

ชีวิตของลูกคงกระจัดกระจายไร้ทิศทาง หากเปรียบชีวิตเหมือนการข้ามฝั่งในแม่น้ำที่ไหลเชี่ยวกราก ซึ่งต้องอาศัยแพและไม้ถ่อข้ามฝั่งเพื่อไปสู่เป้าหมายอย่ างปลอ ดภั ย หากเปรียบไปก็เหมือนพ่อ กับแม่ ถ่อเปรียบเสมือนพ่อ แพเปรียบเสมือนแม่ ถ้าถ่อหักก็ยังสามารถใช้มือหรือเท้าพายแทน แต่ก็ต้องทุลักทุเลพอควร มีโอกาสถึงฝั่ง 50-50 แต่หากแพต้อง แ ต ก หรือ อั บ ปางกลางแม่น้ำ

โอกาสที่จะถึงฝั่งก็คงลางเลือน และริบหรี่เต็มประดาแม่ผู้ให้ทุกสิ่งทุกอย่ างแก่ลูก แม่ผู้ยอมอ ดเพื่อให้ลูกอิ่ม แม่ผู้ที่ยอมทุ ก ข์เพื่อให้ลูกสุข แม่ผู้ที่ยอมลำบากเพื่อให้ลูกสบาย แม่ผู้ที่รักเป็นห่วงเป็นใย และเฝ้าถามลูกอยู่เสมอ เหนื่อยไหมลูก หิวไหมลูก แล้วลูกหล่ะเคยถามแม่บ้างหรือเปล่า ลูกบางคน ย ามแม่มีชีวิตอยู่ไม่เคยเลยที่จะรักษ าน้ำใจท่าน ไม่เคยเลยที่จะเลี้ยงดูใจท่าน

ทำให้ท่านสบายอ กสบายใจ บางคนเอาแต่สนุก เลี้ยงเพื่อนฝูงมากกว่าเลี้ยงแม่ ปล่อยให้แม่นั่งเหงา นั่งรอเรากลับบ้านเพื่อมาทานข้าวด้วยกัน และหากเย็นนี้ แม่คุณไม่อยู่แล้วคุณจะทำได้เพียงแต่ ข้าวต้มถ้วยเดียวและน้ำเปล่าครึ่งแก้ว ใส่ถาดเอาไปวางไว้ แล้วลูกช ายลูกหญิงผู้ โ ง่ เขลา ก็จะไปเคาะข้างโลง พร้อมกับพูดว่า แม่จ๋าลุกขึ้น มากินข้าวเถอะ แม่จ๋าลุกขึ้น มากินน้ำเถอะ แม่จ๋าพระมาแล้วฟังสวดนะแม่นะ แต่ในขณะที่แม่มีชีวิตอยู่ เราจะได้ยินแต่คำว่า ลูกจ๋าลูกหิวหรือเปล่า ลูกต้องการอะไรหรือเปล่า ลูกจ๋าลูกไม่สบายหรือเปล่า

จะมีลูกซักกี่คนที่จะถามแม่เช่นนั้น หรือจะรอให้แม่จากไปซะก่อนแล้วค่อยถามอย่ างนั้นหรือ เรารักสิ่งใด เราจะถนอมสิ่งนั้น รักษ าสิ่งนั้น แล้วมันจะอยู่กับเรานาน ถ้าเรารักแม่ต้องถนอมน้ำใจท่าน รักษ าใจท่าน ตอนที่แม่มีชีวิตอยู่ไม่เคยสนใจท่านเลย แต่พอท่านไม่อยู่กลับนำร่างที่ไร้วิญ ญ าณของแม่ ไปใส่โลงทองอย่ างดี เอาไปไว้วัดแล้วนิมนต์พระมาสวด 7 วัน 7 คืน

หวังว่าแม่จะไปสู่สุ ข คติ โลกสวรรค์ นี่หรือคือสิ่งที่เรามอบให้แม่ทำความดี มีความกตัญญูต่อแม่ ขณะมีชีวิตอยู่ประเสริฐ กว่าการสำนึกบุญคุณได้เมื่อท่านจากไปแล้วหากใครที่ได้อ่ าน สิ่งที่เรานำมาฝากเหล่านี้แล้ว อย่ าลืมหันไปมอง คนรอบข้างไม่เพียงแต่แม่เท่านั้น ยังหมายรวมไปถึงคนสำคัญ ในครอบครัวของเรา อย่ าปล่อยให้เวลาผ่านไปทำดีในตอนที่ยังทำได้ หากมาคิดได้ตอนเค้าจากไปแล้วทำดีเท่าไหร่ก็คงไม่ถึงคนที่เรารักอยู่ดี

ที่มา พระมหาประดิษฐ์ จิตฺตสํวโร, verrysmilejung