วันนี้เราอย ากที่จะพาเพื่อนๆ ไปเรียนรู้ข้อคิดการใช้ชีวิตให้มีความสุขกับการเลี้ยงลูกกับบทความ อย่ าสินลูกในเวลาไม่พอใจ ลูกอาจเสียใจได้ตลอ ดชีวิต ไปดูกันว่าทำไมพ่อแม่ถึงไม่ควรสอนลูกในเวลาโ ก ร ธ และโมโห
พระโพธิญาณเถร ( ชา สุภทฺโท ) ครูบาอาจารย์รูปสำคัญ ในสายพระป่าหลวงปู่มั่น ขณะมีชีวิตอยู่ท่านได้อุทิศชีวิตเพื่อ การปฏิบัติธรรมและเผยแผ่พุทธศาสนา ทั้งแก่ชาวไทยและชาวต่างประเทศ ซึ่งบังเกิดผลทำให้ผลงานที่เป็นประโยชน์อเนกอนันต์แก่พระศาสนา ทั้งที่เป็นพระธรรมเทศนา และสำนักปฏิบัติธรรมในนามวัดสาขาวัดหนองป่าพงมากมาย ซึ่งแม้ท่านจะมรณภาพไปนานแล้ว แต่ศิษย านุศิษย์ของท่านก็ยังคงรั ก ษ าแนวทางปฏิบัติธรรมที่ท่านได้สั่งสอนไว้จนถึงปัจจุบัน
คำสอนของหลวงพ่อชานั้น เรียบง่าย แต่คมคายและเปี่ยมไปด้วยแง่คิด ซึ่งผู้ฟังสามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ทันที ผู้ที่ปฏิบัติต ามก็ย่อมประสบความเจริญทั้งทางโลกและทางธรรม ดังจะยกตัวอย่ างคำสอน ในครั้งหนึ่งที่ท่านเคยเทศน์เอาไว้ ใช้ได้จริงกับทั้งคนรอบตัว โดยเฉพาะกับลูกน้อง บริวาร และบุตรหลานในครอบครัว ความว่า คนที่ฉลาดแล้ว สอนไม่มากหรอ ก ถ้าคนไม่ฉลาด สอน มากแค่ไหนก็ไม่ค่อยรู้เรื่อง แต่มันเกี่ยวกับคนสอนด้วยนะ โดยมาก คนเราเวลาไม่สบายใจ จึงสอน
อย่ างเราจะสอนลูกเรา เราโ ก ร ธแล้วจึงสอน มันก็ด่ากันเท่านั้นหล่ะ ไม่ยอมสอนกันดีๆ หรอ ก ก็คนใจไม่ดี ไปสอนกันทำไม อาตมาว่า อย่ าไปสอนในเวลานั้น ให้ใจมันสบายก่อน มันจะผิดอย่ างไรก็เอาไว้ก่อน ให้มันใจดีๆ ซะก่อน นี่โยมจำไว้นะ อาตมาสังเกตโยมสอนลูกแต่เวลาโมโหเท่านั้นละ มันก็เ จ็ บใจละซิ เอาของไม่ดีให้เขา เขาจะเอาทำไม ตัวเราก็เป็นทุ ก ข์ ลูกเราก็เป็นทุ ก ข์ นี่มันเป็นอย่ างนี้ คนเรามันชอบดีๆ ทั้งนั้นละ แต่ความดีเราไม่พอ ให้ความดีมันไม่เป็นเวลา
ไม่รู้จักบทบาท ไม่รู้จักกาลเวลา มันก็เป็นไปไม่ได้ อันนี้ก็เหมือนกันฉันนั้น อาหารที่มันอร่อย เราต้องทานทางปาก มันจะเกิดประโยชน์ ลองเอาเข้าทางหูซิ มันจะเกิดประโยชน์ไหม อาหารอร่อยๆ จะมีประโยชน์ไหม คนเรามัน มีประตูเหมือนกันละ ต้องเข้าหาประตู ทุกคนก็เป็นอย่ างนั้น
ที่มา songtorkwamrak