10 ข้อคิด เมื่ออายุมากขึ้น ควรแคร์คนให้น้อยลง หัน มาใส่ใจและแคร์ความรู้ตัวเองมากขึ้น

วันนี้เราอย ากที่จะพาเพื่อนๆ ไปเรียนรู้สิ่งที่ควรทำเมื่ออายุเพิ่มมากขึ้น เพื่อความสุขของตัวเอง กับบทความ 10 ข้อคิด เมื่ออายุมากขึ้น ควรแคร์คนให้น้อยลง หัน มาใส่ใจและแคร์ความรู้ตัวเองมากขึ้น ไปดูกันว่าการแคร์แค่ความรู้สึกของตัวเองนั้นทำให้ชีวิตของเรานั้น มีความสุขมากขึ้น มากเพียงใด

1 เลิกกังวลถึงการเปลี่ยนแปลงของร่า งกา ย

เช่น ตี นกา , ผมหงอ ก , เหนี ยงที่ค อ หรือริ้วรอยทั้งหล า ยริ้วรอยเหล่านี้เป็นตัวบอ กถึงประสบการณ์ที่คุณผ่านร้อนผ่านหนาวมา คุณไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้จงภูมิใจกับมัน ยอมรับมัน เติบโตอย่ างสง่างาม

2 เลิกแคร์ว่าคนอื่นจะคิดอย่ างไรกับคุณ

หน้ากากและหัวโขนจะอยู่กับคุณอีกไม่ถึงสิบปีหัดที่จะปล่อยวาง และ ลดตัวตนของคุณลงบ้างกลับไปหาเพื่อนที่ดี และจริงใจกับคุณจริงๆออ กห่างจากคนที่ไม่จริงใจกับคุณ หรือคนที่มาเพียงเพื่อจะเอาประโยชน์จากตัวคุณ หรือเอาเปรียบคุณ

3 ลดการทำงานหนักได้แล้ว

ถ้าคุณเป็น มนุษย์เงินเดือนภาคเอกชน อายุ 50ถ้ายังไม่ขึ้นเป็นระดับผู้บริหาร แสดงว่า…คุณคงไม่อยู่สายต าเจ้านายเท่าไรอย่ าเสียเวลาไปกับการทำงานหนักเลยใช้เวลาดูแล สุ ข ภ า พตัวเองให้มากขึ้นจะดีกว่าถ้าคุณขึ้นเป็นระดับผู้บริหารที่ต้องทำงานหนักเพื่อบริษัทก็จัดสรรเวลาให้กับครอบครัว และสุ ข ภ า พตัวคุณเองบ้างถ้าคุณเป็นข้าราชการ คุณมี ควา ม มั่ นค ง มีเวลาว่างพอสมควรแล้วใช้เวลาดูแลสุ ข ภ า พ

และ เตรียมงานอ ดิเรกหลังเกษียณได้เลยเช่นกัน… ถ้าคุณทำงานอิสระ freelanceคุณสามารถทดลองเกษียณล่วงหน้าได้เลย ถ้าคุณเป็นเจ้าของกิจการ คุณคงต้องเริ่มหาผู้ช่วยที่ไว้ใจได้มาช่วยคุณบริหารงานได้ โดยคุณสามารถออ กมาดูแลห่างๆได้ แต่อย่ าหวังว่า ลูกหลานของคุณจะรับภาระนี้ปล่อยให้ เขาเลือ กทางเดินชีวิตเองเถิด

4 หยุดทำ ร้ า ย ร่า งกา ยของคุณ

เช่น การเ มาค้าง , อ ดนอน, ทานอ าห า รไม่ดี กินโดยไม่ประมาณจงเริ่มหันกลับมาดูแลร่า งกา ยตัวเองอย่ างจริงจัง ด้วยการออ กกำลังกายหล า ยๆ คนคงจะผลัดวันและเลี่ยงการออ กกำลังกาย มาตั้งแต่ยังเป็นหนุ่มสาวแล้ว แต่เมื่ออายุเลขขึ้นห้าหมายความว่า… ร่า งกา ยคุณกำลังจะร่วงโรยแล้วดังนั้นควรหัน มาใส่ใจกับการออ กกำลังกายจริงๆ เสียที

5 หยุดคิดแทนลูกๆ

คุณไม่มีทางอยู่ดูแลลูกไปได้ตลอ ดชีวิตดังนั้นต้องรู้จักวางมือ ลูกๆมีทางเดินของเขาหากคิดแทนทำแทนไปเสียหมด คุณเหนื่อยตลอ ดแถมทำให้ลูกๆ ดูแลตัวเองไม่เป็นไปตลอ ดชีวิต วันหนึ่งที่คุณจากไปพวกเขาจะมีชีวิตอยู่ต่อยังไง..?

6 หยุดความโมโหที่ไรเหตุผล

ต้องลดลง ความโลภ ความโ ก ร ธ ความหลงต้องลดลงคุณธรรมความสุขุมต้องมากขึ้น ความเมตต า กรุณา ต้องมากขึ้นหมั่นเตือนตัวเองนว่า… อยู่ให้ลูกหลานเคารพรักมิใช่อยู่ให้ลูกหลาน หวาดกลัวจนไม่มีใครยอมเข้าใกล้จงชราอย่ างมีคุณภาพ อย่ าแก่เพียงเพราะอยู่นาน…!!

7 หยุดการใช้จ่ายเงินอย่ างฟุ่มเฟือย

ถ้าคุณเริ่มคิดเก็บเงินไว้ใช้หลังเกษียณ ตอนใกล้เกษียณดูเหมือนว่าค่อนข้างจะสายไปแล้วนะอายุเกิน 50 เท่าไร คุณควรมีเงินสะสมที่ใช้หลังเกษียณต่อปี บวกไปอีก 10 ปีเช่น อายุ 51 ควรมีเงินสะสม 10+1=11 ปีอายุ 52 ควรมีสะสม 12 ปี อายุ 60 ควรมีเงินสะสม 20 ปีนั่นเป็นตัวเลขโดยประมาณว่า คุณจะลาโลกตอนที่อายุ 80 ปีและ อย่ าคาดหวังอะไรกับลูกๆให้เป็นทุ ก ข์ มากนักในสมัยนี้ พวกเขาก็ต้องแบกรับภาระดูแลครอบครัวเขาเหมือนกัน

8 หยุดการเล่นอินเทอร์เน็ตที่มากเกินไป

คุณควรเริ่มทำอะไรที่เป็นชิ้นเป็นอันและมีคุณค่าดีกว่าเสียเวลากับ Social Network(ยกเว้นว่าคุณใช้ในการติดต่อเพื่อนฝูงเก่าๆหรือหาข้อมูลข่าวส า รที่เป็นประโยชน์)เล่นได้ แต่ต้องมีการ จำกัดเวลาเพราะสิ่งเหล่านี้ล้วนทำให้คุณเสียเวลาและได้ประโยชน์น้อยสำหรับคนที่มีครอบครัว กลับมาดูแลคู่ชีวิตและลูกของคุณให้มากขึ้นเขาเหล่านั้นเป็นคนที่หวังดีกับคุณเต็มร้อย โดยไม่มีเงื่อนไขสำหรับช ายโสด ไม่ง่ายที่จะหาคู่ชีวิตที่รักตัวคุณมากกว่ากระเป๋าสต างค์ของคุณ หาหมามาเลี้ยงยังง่ายกว่าสำหรับหญิงโสด คุณคงเคยชินกับชีวิตโสดแล้ว และรู้ว่าอยู่คนเดียวสบายที่สุดแล้ว

9 หยุดลังเลเกี่ยวกับการทำงานและการหางานใหม่

เมื่ออายุย่ างเข้าวัย 50 คุณควรจะมีงานที่มั่นคงและ เป็นงานที่คุณรักจริงๆ ได้แล้วเพราะถ้างานนั่นไม่ใช่ตัวตนของคุณมันก็คงจะสายเกินไปที่จะไปเริ่มใหม่จงอ ดทนทำต่อไป เพราะคุณคุ้นชินกับมันแล้วถ้าจะหางานใหม่น่าจะเป็นงานที่คุณอย ากทำหลังเกษียณหรือ งานอ ดิเรก ที่ช่วยเติมเต็มให้คุณหลังเกษียณ

10 หยุดปิดกั้นจิตใจตัวเองที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ

ช่วงเวลาที่ผ่าน มา คุณอาจจะพลาดอะไรหล า ยๆไปเพราะการปิดใจตัวเองไว้ เพียงแค่ลองเปิดใจและเรียนรู้คุณจะพบว่าโลกมันกว้างกว่าที่คุณคิด อายุเลขห้าไม่ได้เป็นอุปสรรค ต่อ การเรียนรู้เรื่องใหม่ๆรับฟังคนรุ่นใหม่บ้าง จะได้เข้าใจสังคมปัจจุบัน มากขึ้นและ ลดปัญหาช่องว่างระหว่างวัย

ที่มา b i t c o r e t e c h, f a h h s a i