วันนี้เราอย ากที่จะพาเพื่อนๆ ไปเรียนรู้ข้อคิดการเลี้ยงลูกกับบทความ 3 สิ่งที่พ่อแม่ควรขี้เกียจทำ ทำให้ลูกเติบโตไปไม่ลำบาก ไปดูกันว่าการที่พ่อแม่ขี้เกียจนั้นส่ งผลดีต่อลูกอย่ างไร
1 ขี้เกียจช่วยลูกทำการบ้าน
คุณแม่ท่านหนึ่ง ได้เล่าประสบการณ์ของตัวเองว่าเธอไม่เคยสอนหรือช่วยทำการบ้านให้ลูกของเธอเลยแม่จะบอ กลูกแค่ว่า ให้ทำการบ้านเวลาไหนควรทำเวลาไหน แล้วก็ไล่ให้ลูกไปทำ พอทำเสร็จก็ค่อยบอ กแม่ และเธอก็จะไม่ตรวจสอบว่าลูกทำถูกต้องหรือไม่เพราะการตรวจสอบนั้น มันเป็นหน้าที่ของลูก หรือให้รู้ว่าถูกผิดจากที่โรงเรียนคุณแม่แค่เซ็นชื่อ ให้เท่านั้นเอง ช่วงแรก ๆ ลูกของเธอก็แสดงอาการไม่พอใจและพูดว่า ‘ ทำไมแม่ถึงขี้เกียจแบบนี้ แม่คนอื่นเขาช่วยตรวจการบ้านให้ลูกกันทั้งนั้น ‘ เธอจึงตอบลูกไปว่า ‘ ที่แม่ไม่ตรวจการบ้านลูกไม่ใช่เพราะ
แม่ขี้เกียจหรอ กนะ แต่ลูกลองคิดดูสิ ถ้าแม่ตรวจให้ แล้วลูกจะรู้ได้ไงว่าตัวเองทำผิดตรงไหน แล้วตอนสอบเวลาลูกทำผิด จะรู้ไหมว่าผิดตรงไหนลูกต้องฝึกตรวจความถูกต้องด้วยตัวเอง เรียนรู้ด้วยตัวเองเพราะในห้องสอบไม่มีใครช่วยลูกได้ ‘ จำไว้นะลูก ‘ ตอนลูกอยู่ในโรงเรียน ลูกจะได้รับบทเรียนก่อนแล้วถึงได้ทำข้อสอบ แต่สำหรับในโลกความจริง ลูกจะต้องเจอ บททดสอบก่อน ถึงจะได้บทเรียน ‘ การที่เธอขี้เกียจสอนการบ้าน หรือช่วยลูกทำการบ้าน ทำให้ลูกเรียนรู้ด้วยตัวเองได้มากที่สุดลูกจะได้รู้จักพึ่งพาตัวเอง ก่อนที่จะขอความช่วยเหลือ จากคนอื่นเสมอ หากคิดไม่ออ กหรือทำไม่ได้ ค่อยมาขอคำแนะนำจากแม่ได้ผลปรากฎว่า สำหรับพ่อแม่ที่มีนิสัยขี้เกียจตีกรอบความคิดให้ลูกแต่ปล่อยให้ลูกคิดเองอย่ างอิสระหรือทำ
ทุกอย่ างด้วยการตัดสินใจของตัวเองได้อย่ างอิสระแต่ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจยังให้ความสนใจลูกและคอยดูอยู่ห่างๆ จะทำให้ลูสามารถเผชิญ กับปัญหาได้ดีเขาจะมีภูมิคุ้มกัน มีปีกที่แข็งแรง พอและอยู่ได้ด้วยตัวเอง แม้วันหนึ่งคุณจะไม่ได้อยู่ปกป้องเขาแล้วก็ต าม
2 ขี้เกียจขยับมือ สอนให้ลูก รู้จักพึ่งพาตนเอง
พ่อแม่ต้องขี้เกียจต ามเก็บกวาดให้ลูกทุกอย่ างควรปล่อยให้เขารู้จักพึ่งพาตัวเองบ้างบางสิ่งที่ลูกสามารถทำเอง ได้ไม่จำเป็นต้องยื่น มือเข้าไปช่วยทุกครั้งไปเช่น ห้องนอนลูกที่ดูไม่เป็น ระเบียบแค่เตือนให้เขารู้ตัวว่าต้องทำแต่ไม่ต้องไปทำให้ลูกเราควรจะเน้นไปที่การสอนให้ลูกดูแลความสะอาดบริเวณพื้นที่ส่วนรวมของบ้าน เช่น ห้องรับแขก ห้องรับประทานอาห ารและ เมื่อลูกเห็นว่า พื้นที่อื่นในบ้านสะอาด เขาจะรู้สึกว่า เขาต้องทำความสะอาดห้องนอนตัวเองให้สะอาดเหมือนกันผลปรากฎว่าเมื่อพ่อแม่ขี้เกียจช่วยเหลือลูกในบางเรื่องส่ งผลให้ลูกฝึกทำ สิ่งต่าง ๆ ด้วยตัวเองมากขึ้น และเป็นการฝึกนิสัยพึ่งพาตัวเอง มีความรับผิดชอบต่อสิ่งรอบตัวและจะทำให้ลูกมีความรับผิดชอบต่อตัวเองมากขึ้นเมื่อเขาโตไปจะกล า ยเป็นคนที่สามารถ รับผิดชอบได้ดีรู้จักหน้าที่ของตัวเอง
3 ขี้เกียจบ่น ให้ลูกเรียนรู้ด้วยตัวเอง
ในหล า ยครอบครัว คนเป็นพ่อเป็นแม่มักจะตั้งความหวัง ไปที่ลูกมากจนเกินไปจนทำให้ลูกอึดอัดและกดดัน กล า ยเป็นไม่สนใจและไม่อย ากฟังสิ่งที่เราจะพูดแต่สำหรับครอบครัวนี้เขา กลับใช้เวลา ช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ในการชวนลูกมาเล่นเกม และไม่ต้องทำการบ้านโดย
คุณแม่จะถามว่า : ‘ ลูกกะจะเล่นเกมถึงกี่โมง ? ‘
ลูกตอบ : ‘ ขอเล่นอีก 30 นาที ‘
แม่ตอบกลับไปว่า : ‘ โอเค ต้อง รั ก ษ า คำพูดนะ ‘
เมื่อถึงเวลา 30 นาที แม่เดินกลับมาดู และยังเห็นลูกเล่นเกมอยู่ คุณแม่ก็รู้สึกไม่พอใจ แต่ยังสงบอารมณ์ได้และพูดกับลูกอย่ างใจเย็นว่า ‘ ปกติลูกเป็นคน รั ก ษ า คำพูดไม่ใช่เหรอ ‘
เมื่อลูกได้ฟังคำพูดของแม่ ก็เริ่มรู้สึดผิดต่อสิ่งที่ทำ จึงเดินไปปิดสวิตช์ และรีบไปทำการบ้านทันทีนี่เป็นสาเหตุมาจาก ‘ การเป็นคนน่าเชื่อถือ ‘ ของคุณแม่ท่านนี้ เพราะเวลาคุณแม่รับปาก อะไรกับลูกไว้เธอ ก็จะทำต ามนั้นได้เป๊ะ ๆ ไม่เคยผิดคำพูดกับลูก เช่น จะพาลูกไปเที่ยว จะซื้ อของเล่นให้เธอ ก็ทำต ามคำพูดได้ทุกครั้ง มันแสดงให้เห็นว่าคุณแม่ท่านนี้เป็นคนที่ให้ความ
สำคัญกับการ รั ก ษ า คำพูดเป็นอย่ างมากเมื่อรับปากอะไรไว้ ก็ต้องทำให้ได้และสอนลูกให้รู้จักรับผิดชอบต่อคำพูดของตัวเองแล้วคำพูดก็เลยดูศักดิ์สิทธิ์ ผลปรากฎว่าพ่อแม่ ที่ไม่บ่น เรื่อยเปื่อย แต่ใช้วิธีปลูกฝังจิตสำนึกให้ลูกแทนใช้เหตุผลในการคุยกับลูกมากกว่าอารมณ์สอนให้ลูกรู้จัก รั ก ษ า คำพูดของตัวเองและทำต ามที่พูดไว้อย่ างเคร่งครัดทำให้ลูกให้ ความสำคัญกับคำพูดมากโดยที่เราไม่ต้อง ไปบ่นให้เขามากมายเขาสามารถสำนึกและคิดได้เองถ้าอย ากให้ลูกช่วยเหลือตัวเองเป็น ให้ลูกได้ลองลงมือปฎิบัติถ้าอย ากให้ลูกกล้า แสดงความคิดเห็นให้ฝึกถามเพื่อให้ลูกกล้าแสดงความคิดเห็นถ้าอย ากให้ลูกมีวินัย พ่อแม่ต้องรู้จัก รั ก ษ า คำพูดถ้าอย ากให้ลูกพูดเพราะหรือมีมารย าท ต้องทำให้ลูกเห็นทุกวัน
ที่มา l i e k r, v e r r y s m i l e j u n g