วันนี้เราอย ากที่จะพาเพื่อนๆ ไปเรียนรู้สิ่งที่ควรทำ เพื่ออนาคตที่ดีของลูกกับบทความ 3 เรื่องที่พ่อแม่ควรทำทุกวัน ให้ลูกเติบโตเป็นคนเก่งในอนาคต ไปดูกันว่ามีเรื่องราวอะไรบ้างที่พ่อแม่ควรทำเพื่อให้ลูกเติบโตเป็นคนที่ใช้ชีวิตอยู่รอ ดได้ในสังคม
1 แม่ต้องขี้เกียจบ่นหรือพูดมาก ให้ลูกเรียนรู้ที่จะเติมโตด้วยตนเอง
พ่อแม่หล า ยคน ชอบสร้างความคาดหวังในตัว ลูกมากเกินไป อย ากให้ลูกทำต ามสิ่งที่ตัวเอง นั้นต้องการเพราะคิดว่ามันเป็นสิ่งที่ดีสำหรับลูก แต่การทำแบบนี้ จะทำให้ลูกรู้สึก อึดอัดกดดันและกล า ยเป็นไม่อย ากฟัง และทำเป็นหูทวนลม ไม่ใส่ใจกับสิ่งที่แม่พูด แต่มีครอบครัวหนึ่ง ที่กลับทำตรงกันข้ามในช่วงสุดสัปดาห์ ต้นเล่นเกมเป็นเวลานาน มาก
และไม่ทำการบ้านแม่จึงถามเขาว่า ‘ลูกกะจะเล่นเกมถึงกี่โมง?’ ต้นตอบว่า = ‘ขอเล่นอีก 10 นาที’ แม่ตอบกลับไปว่า ‘โอเค ต้องรักษ าคำพูดนะ’ พอผ่านไป 10 นาที แม่ก็เดิน กลับมาดูอีก ต้นก็ยัง คงนั่งเล่นอยู่ที่เดิม แม่โก ร ธ มาก แต่ก็ต้องสงบสติอารมณ์และพูดอย่ างใจเย็นว่า ‘ปกติลูกเป็นคนรักษ า คำพูดไม่ใช่หรอ?’ ในตอนนั้น ต้นเริ่มรู้สึกผิด จากนั้นก็เดินไปปิดสวิทช์ และรีบไปทำการบ้านทันที นั้นเป็นเพราะว่าก่อนหน้านี้ แม่ของต้นเคยพูดหล า ยรอบ เกี่ยวกับนิทานเรื่อง ‘การเป็นคนน่าเชื่อถือ’ และ นั้นก็ทำให้
ต้นค่อยซึมซับเข้าไปในจิตใจ ปกติ แม่จะเป็นคนที่ให้ความสำคัญเกี่ยว กับการอ่ านหนังสือ ทบทวนตำราเป็นอย่ างมากจึงได้ซื้ อนิทานสร้างแรงบันดาลใจให้อ่ าน มากมาย และจากนิทานเหล่านี้ ทำให้ต้นเรียนรู้ ที่จะนำมา ใช้กับตนเอง เสริมสร้างการควบคุมนิสัยของตนเอง การอ ดทนอ ดกลั้นด้านจิตต านุภาพ เพื่อให้ตนเองเป็นคนที่มีคุณภาพยิ่งขึ้น
ประสบการณ์ของครูพบว่า = ‘แม่ขี้เกียจ’ ไม่ขยันที่จะบ่น ทั้งวันแต่ใช้เหตุผล ในการพูดคุย เพราะเธอรู้ดีว่าลูกไม่ชอบการบ่น แต่เธอขยันในการหาวิธีในการรับมือเพื่อปลูกฝัง จิตสำนึกและคุณภาพที่ดีเยี่ยมให้ลูก
2 แม่ต้องขี้เกียจขยับมือ สอนให้ลูกเรียนรู้จักพึ่งพาตนเอง
คุณแม่กุ๊ก เผยประสบการณ์ว่าเธอจะไม่เข้าไปช่วยลูก ในสิ่งที่ พวกเขาสามารถทำได้เอง เช่น เมื่อห้องนอนของกุ๊ก ไม่เป็นระเบียบเรียบร้อยแม่จะเตือนกุ๊กว่า ควรจัดห้องอย่ างไร เพื่อให้เป็นระเบียบแต่จะไม่เข้าไปทำให้ลูกเอง เธอปล่อยให้ลูกได้ทำด้วยตัวเองช่วงเปิดภาคเรียนคุณครูขอให้นักเรียนห่อปกหนังสือเรียนเล่มใหม่ของเทอมนี้ แต่กุ๊กทำไม่เป็น แม่จึงสอนกุ๊กห่อ 1 เล่มก่อนเป็นตัวอย่ าง ให้กุ๊กดูจากนั้นก็ปล่อยให้กุ๊กลองทำเองทั้งหมด กุ๊กไม่อย ากห่อเอง จึงไม่ยอมขยับมือ แม่ก็ไม่สนใจเธอได้แต่ยืนอยู่ข้างๆ พร้อม ชี้นิ้ว
บอ ก ให้ทำอย่ างนั้นอย่ างนี้ แต่ไม่เข้าไปช่วยห่อ ทำให้กุ๊กต้องนั่งห่อเอง ทั้งหมด แม่ของกุ๊กบอ กว่า ‘ความจริงถ้าฉันจะเข้าไปช่วยห่อจะประหยัดเวลาได้มาก แต่กุ๊กจะไม่มีวัน เรียนรู้ที่ ห่อปกหนังสือเองได้เลย ดังนั้น นี้เป็นวิธีที่ดีที่สุด คือปล่อยให้กุ๊กห่อเอง แม้ว่าจะห่อไม่เรียบร้อย ก็ต าม’ ประสบการณ์ของครูพบว่า = ‘แม่ขี้เกียจ’ ไม่เคยขยันหมั่นเพียร ในการช่วยเหลือ ลูกในการทำสิ่งต่างๆ แต่ให้ลูกทำเอง เพื่อจะได้พึ่งพาอาศัยตัวเอง ช่วยเหลือตัวเองได้ และไม่เฉยเมยต่อ การฝึกฝนสร้างความรับผิดชอบให้กับลูก
3 แม่ต้องขี้เกียจ ไม่เข้าไปช่วยลูกทำการบ้าน
มีคุณแม่คนหนึ่ง เล่าประสบการณ์ ว่าตนเองไม่เคย ไปสอนการบ้าน ให้ลูกช ายเลย แม่จะเตือนลูกมากกว่า ว่าเวลาไหน ควรไปทำการบ้านได้แล้ว เมื่อทำเสร็จแล้วก็บอ กแม่ คำหนึ่งก็พอ ส่วนการตรวจสอบ ว่าลูกช ายทำถูกหรือไม่นั้นเป็นหน้าที่ของตัวเขาเองหรือให้เรียนรู้ว่าถูกหรือผิดจากที่โรงเรียนแม่มีหน้าที่แค่เซ็นชื่อเท่านั้น ในตอนแรกลูกช าย
ไม่พอใจ เป็นอย่ างมากโดยบอ กว่า ‘แม่ของคนอื่นจะช่วยตรวจ การบ้านให้ด้วย ทำไมแม่ขี้เกียจแบบนี้…?’ เธอตอบลูกช ายไปว่า… ‘ ไม่ใช่เพราะแม่ขี้เกียจหรอ กนะ ลูกคิดดูสิ..!! หากแม่ช่วยลูกตรวจ การบ้านแล้วลูกจะรู้ได้อย่ างไร ว่าผิดตรงไหนบ้างแล้วต่อไปลูกจะตรวจเองเป็นไหม…? ตอนสอบ หากผิดลูกจะรู้ไหม ว่ามันผิดตรงไหน จงจำไว้นะว่า ในตอนนั้น ไม่มีใครสามารถมาช่วยลูกตรวจ ข้อสอบได้ ลูกจะได้ฝึกการตรวจ ความถูกต้องและเรียนรู้ด้วยตัวเอง ‘ ในห้องเรียนลูกจะเจอ บทเรียนก่อนและจึงจะได้ทำข้อสอบแต่…
ในโลกแห่งความเป็นจริงลูกจะได้ เจอบททดสอบก่อนแล้วถึงจะได้บทเรียน นี่คือสิ่งที่ลูกต้องเรียนรู้ ให้ได้มากที่สุด เธอสอนให้ลูกรู้จักพึ่งตนเองเมื่อพบเจอปัญหา ก็ต้องคิด ใคร่ครวญเอง หากคิดไม่ออ กจริงๆ ค่อยถามแม่หรือขอคำแนะนำจากแม่ได้ ประสบการณ์ของครูพบว่า = ‘แม่ขี้เกียจ’ ไม่เคยชี้นำลูกให้เรียนรู้ แต่ปล่อยให้ลูกทำอย่ างอิสระ และคิดอย่ างอิสระ แต่เธอก็ไม่ได้นิ่งนอนใจเธอยังให้ความสนใจกับลูกและใช้วิธีการที่ช าญฉลาด เพื่อช่วยแก้ปัญหาเมื่อลูกมีปัญหามันสอนให้รู้ว่าผู้ปกครองควรที่จะปล่อยลูก
ของตัวเองบ้างในเวลาที่สมควร ให้เขาได้เรียนรู้ และใช้ชีวิต ของตัวเองให้เต็มที่ สิ่งที่ตัวอย่ างแม่ๆทั้งหล า ยทำนั้น มันเป็นวิธีในการปลูกฝังลูกน้อยที่ดีมาก เพื่อให้เขาสามารถ เติบโต ได้ด้วยตัวเองและช่วยเหลือ ตัวเองได้พ่อแม่ทุกคน มักจะกังวลกับลูก จนไม่กล้าปล่อยให้ลูกได้เรียนรู้และทำอะไรด้วยตัวเขาเอง คุณควรเอาความกังวลเก็บไว้ในใจ และปล่อยให้เขาโบยบินไปด้วยวิธีของเขาเอง เพื่อให้เขามีปีกที่แข็งแรงพอ และอยู่ได้ด้วยตัวเองในวันที่ไม่มีคุณปกป้อง
ถ้าอย ากให้ลูก เป็นคนใจเย็นให้ฝึกการรอคอย
ถ้าอย ากให้ลูก ช่วยเหลือตัวเองเป็น ให้ลูกได้ลองลงมือปฎิบัติ
ถ้าอย ากให้ลูก พูดเพราะ และ มีมารย าทต้องทำให้ลูกเห็นทุกวัน
ถ้าอย ากให้ลูก มีวินัย พ่อแม่ต้องรู้จัก รักษ าคำพูด
ถ้าอย ากให้ลูก แก้ปัญหาได้ ให้ฝึกให้เจอปัญหาบ่อยๆ
ถ้าอย ากให้ลูก กล้าแสดงความคิดเห็น ให้ฝึกถามเพื่อให้ลูกกล้า แสดงความคิดเห็น
ที่มา l i f e b e e p e r, f a h h s a i