ปัจุบันหล า ยๆ บ้านข า ดรายได้จนต้องไปเป็นห นี้สิน มากมายเพื่อนำเงิน มาหมุนเวียนใช้จ่ายภายในบ้าน แต่ก็มีห นี้สินบ้างอย่ างที่เราควรคิดทวบทวนให้ดีก่อน ก่อนที่จะตัดสินใจเซ็นเอกสาร วันนี้เราก็อย ากที่จะแนะนำข้อคิดที่ควรคิดก่อนตัดสินใจเป็นห นี้กับบทความ 4 สิ่งที่ควรคิด ก่อนเป็นห นี้แทนคนอื่น ไปดูกันว่ามีเรื่องราวอะไรบ้างที่ควรคิด
เคยหรือไม่…ที่คนรอบข้าง เช่น ญาติพี่น้อง ลูกหลาน เพื่อนสมัยเรียน เพื่อนที่ทำงาน หรือคนใกล้ชิดอีกมากมายขอให้เราช่วยเหลือเรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ ไม่ว่าจะขอยืมเงิน หรือให้ช่วยค้ำประกันเงินกู้ แม้ว่าการช่วยเหลือจะเป็นสิ่งที่ดี แต่ก่อนที่เราจะตัดสินใจช่วยใครทันทีที่ฟังคำขอร้องหรือเรื่องราวที่น่าเห็นใจ
อย ากชวนให้หยุดคิดสักนิดถึงผลที่จะต ามมาจนอาจส่ งผลกระทบกับตัวเราและครอบครัว ก่อนจะมานั่งเสียใจภายหลังเพียงเพราะความหวังดีที่กลับมาทำร้ า ยตัวเราเองที่ต้องเป็นห นี้แทนคนอื่น มาดูกันว่าเคยเจอเหตุการณ์ต่อไปนี้ด้วยตัวเองหรือเคยได้ยินเรื่องราวทำนองนี้จากคนอื่นหรือไม่ และจะมีวิธีการป้องกันอย่ างไร
เหตุการณ์ไหนบ้ างที่อาจทำให้เราเป็นห นี้แทนคนอื่น
– กู้เงิน มาเพื่อให้ยืมต่อ โก้ได้รับโทรศัพท์จากพี่โอซึ่งเป็นญาติสนิทโทรมาขอยืมเงินจำนวน 100,000 บาทเพื่อใช้ล ง ทุ นทำธุรกิจข า ยของเล่นเด็ก แต่ตอนนี้โก้ก็ไม่มีเงินเก็บมากขนาดนั้น จึงบอ กพี่โอว่าจะกดเงินจากบั ต ร เ ค ร ดิ ตของตัวเองให้พี่โอยืม แล้วให้พี่โอเป็นคนผ่ อ นโดยโ อ นเงิน มาให้โก้ทุกเดือนต ามยอ ดขั้นต่ำในใบแจ้งห นี้
ซึ่งพี่โอก็ตอบตกลง โก้จึงกดเงินจากบั ต ร เ ค ร ดิ ตและให้พี่โอยืมต ามที่คุยกัน ต่อมาโก้ได้รับใบแจ้งห นี้จากบั ต ร เ ค ร ดิ ตให้ชำระห นี้ โก้จึงติดต่อพี่โอให้โ อ นเงิน มาให้โก้ แต่พี่โอตอบโก้ว่าของที่สั่งมาข า ยไม่ค่อยดี จึงไม่มีเงินที่จะให้โก้ไปจ่ายห นี้บั ต ร เ ค ร ดิ ตที่กดมา สุดท้ายโก้เลยเดือ ดร้อนเพราะเป็นห นี้จากบั ต ร เ ค ร ดิ ตที่กู้แทนพี่โอในที่สุด
-กู้แทนคนอื่น ก้องมีน้องสาวชื่อ กิ๊บ กิ๊บเป็นเด็กจบใหม่เพิ่งเข้าทำงานรายได้จึงยังไม่สูง แต่กิ๊บใฝ่ฝันอย ากจะมีรถยนต์เป็นของตัวเองเพื่อขับไปทำงาน และคอยรับส่ งพ่อ กับแม่
จึงไปยื่นขอสินเชื่อรถกับสถาบันการเงินแต่ไม่ผ่าน กิ๊บจึงไปขอร้องก้องให้กู้ซื้ อรถยนต์เป็นชื่อก้องแทน โดยสัญญาว่าจะผ่ อ นชำระค่างวดในแต่ละเดือนให้ ก้องตกลงต ามที่กิ๊บขอ
แต่พอผ่านไป 6 เดือน เรื่องไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นเมื่อที่ทำงานของกิ๊บประสบปัญหารายได้ตกต่ำ กิ๊บถูกให้ออ กจากงานและไม่สามารถจ่ายค่างวดรถต ามที่ตกลงกับก้องได้ ก้องจึงต้องเป็นห นี้แทนกิ๊บในที่สุด
-ช่วยค้ำประกันเงินกู้ แอนกับฟลุคเป็นเพื่อนกัน มาตั้งแต่เด็ก ทั้ง 2 คนสนิทกัน มากและมักจะช่วยเหลือซึ่งกันและกันเป็นอย่ างดี เมื่อทั้งคู่เริ่มทำงานและสร้างครอบครัวก็ยังไปมาหาสู่กันเสมอ ต่อมาวันหนึ่งฟลุคขอให้แอนช่วยค้ำประกันสินเชื่อจำนวน 400,000 บาท เพื่อเอาเงินไปร่วมหุ้นเปิดร้านกาแฟกับญาติ
แอนก็ไม่ลังเลที่จะช่วยเหลือเพื่อนโดยที่ไม่ได้ปรึกษากับครอบครัวเลยเพราะคิดว่ารู้จักกับฟลุคมาตั้งแต่เด็กไม่มีวันเบี้ยวหรือหนีห นี้แน่นอน 3 เดือนต่อมาแอนก็ต้องเจอข่าวร้ า ยว่าฟลุคถูกให้ออ กจากงานด้วยเหตุผลที่คาดไม่ถึงแถมร้านกาแฟก็ปิดตัวลงเพราะข า ยไม่ดี และทิ้งภาระห นี้อันหนักอึ้งไว้จนทำให้แอนกับครอบครัวต้องเดือ ดร้อนจากการตัดสินใจช่วยค้ำประกัน
( หมายเหตุ = การค้ำประกัน คือ สัญญาประเภทหนึ่งที่ผู้ค้ำประกันสัญญากับเจ้าห นี้ว่า ‘ถ้าลูกห นี้ไม่ชำระห นี้ ผู้ค้ำประกันจะชำระห นี้นั้นแทน’ เมื่อมีการทำสัญญาลักษณะนี้เจ้าห นี้จะมีสิทธิเรียกร้อง หรือฟ้องให้คนค้ำประกันรับผิดแทนได้ โดยเป็นการประกันการชำระห นี้ให้บุคคลอื่นนั่นเอง ชึ่งมักจะเกิดขึ้นต่อเมื่อผู้ที่ขอ กู้เงินเพื่อวัตถุประสงค์อย่ างใดอย่ างหนึ่ง เช่น ซื้ อรถใหม่ กู้อเนกประสงค์
แต่สถาบันการเงินหรือสหกรณ์ไม่อนุมัติเงินกู้ให้เนื่องจากไม่มีหลักประกันเพียงพอ จึงต้องใช้บุคคลค้ำประกันสินเชื่อ หรือว่าที่เจ้าห นี้อาจต้องการให้ผู้กู้มีทั้งหลักประกันและผู้ค้ำประกันจึงจะมีความมั่นใจมากพอที่จะปล่อยกู้ให้ )
-ลืมประเมินสถานการณ์ตนเองให้คนอื่นยืมจนไม่พอใช้ เพื่อนของพลอยโทร. หาพลอยว่ารถกำลังจะถูกยึดเพราะข า ดส่ งมา 3 งวดแล้ว เดือนหน้าเก็บเงินจากลูกค้าได้จะรีบโ อ นคืนให้ พลอยสงส า รเพื่อน มากจึงให้เพื่อนยืมเงิน 20,000 บาท ที่เก็บไว้จ่ายค่าเทอมลูกในอีก 2 เดือนข้างหน้า
และลืมคิดไปว่าตอนนี้พลอยเองก็มีภาระห นี้ค่อนข้างมาก รายจ่ายของครอบครัวก็สูงจนเกือบจะเท่ากับรายได้ และลืมคิดไปว่าหากเพื่อนไม่คืนห นี้ที่ยืมไปพลอยจะหาเงินจากไหน มาจ่ายค่าเทอมลูก
เมื่อถึงเวลาที่พลอยต้องจ่ายค่าเทอมลูกเพื่อนก็ยังไม่คืนเงินให้ สุดท้ายพลอยต้องไปกู้เงิน มาจ่ายค่าเทอมลูก และกล า ยเป็นห นี้เพราะช่วยเพื่อนโดยลืมประเมินสถานการณ์ของตนเอง
ข้อควรคำนึงก่อนตัดสินใจให้ยืมเงิน หรือค้ำประกันเงินกู้
1 ไตร่ตรองเรื่องอื่น ๆ นอ กจากเรื่องเงิน
นอ กจากความเ สี่ ย งเรื่องเงินแล้ว ก็ยังมีโอกาสที่จะเกิดปัญหาอื่น ๆ เช่น ปัญหาความสัมพันธ์ เมื่อคนที่ยืมเงินหรือขอให้ช่วยค้ำประกันเงินกู้ไม่สามารถจ่ายคืนห นี้ได้ ก็บ่ายเบี่ยงหลบหน้า ไม่อย ากเจอหน้า ไม่อย ากคุย หรือเป็นปัญหาอีกด้านหนึ่งคือคนที่ให้ยืมไม่กล้าทวงเงินเพราะกลัวกระทบต่อความสัมพันธ์ อีกปัญหาที่พบบ่อยก็คือ เกิดความวิตกกังวลและความเ ค รี ย ดสะสมทั้งตัวผู้ให้ยืม ผู้ขอยืม และผู้ค้ำประกัน ส่ งผลต่อสุ ข ภ า พและอารมณ์ บั่ น ท อ น ให้ประสิทธิภาพในการทำงานลดลง จึงต้องคิดถึงปัญหาเหล่านี้ไว้ด้วย
2 ถามวัตถุประสงค์ของการยืมเงินหรือ การค้ำประกันเงินกู้
เราควรถามรายละเอียดต่าง ๆ จากคนที่จะขอยืมเงินหรือให้ค้ำประกันเงินกู้ ว่าจะเอาเงินไปทำอะไร วงเงินเท่าไร เหตุใดจึงต้องมาขอความช่วยเหลือจากเรา เช่น เงินไม่พอใช้จ่าย ผ่ อ นบ้ าน ผ่ อ นรถ จ่ายค่าบั ต ร เ ค ร ดิ ต หรือค่าใช้จ่ายฉุ ก เ ฉิ น นอ กจากนี้ เราต้องประเมินเรื่องอื่น ๆ อีก
เช่น คนที่จะขอยืมเงินหรือให้ค้ำประกันเงินกู้มีความสามารถในการชำระห นี้หรือไม่ หากเรารู้อยู่แล้วว่าเขาไม่สามารถจ่ายห นี้ได้คงเป็นการช่วยเหลือที่ไม่ดีแน่นอน เราในฐานะว่าที่เจ้าห นี้หรือผู้ค้ำประกัน มีสิทธิ์ที่จะซักถามจนสิ้นสงสัยและไม่ต้องเกรงใจ เพราะคำถามเหล่านี้จะช่วยทำให้เราทราบข้อมูลเพื่อใช้ประกอบการตัดสินใจว่าจะช่วยหรือไม่ ได้ดียิ่งขึ้น
3 ประเมินสถานะทางการเงินของตัวเอง
สิ่งแรกที่ควรคิดถึงก่อนก็คือ ถ้าเราช่วยเขาเราจะมีโอกาสกล า ยเป็นคนที่เดือ ดร้อนไปด้วยอีกคนหรือไม่ หากเขาไม่คืนเงินหรือเราต้องจ่ายห นี้ที่เราค้ำประกันแทนเขา เราจะไหวไหม ดังนั้น จึงต้องประเมิน ‘สถานะทางการเงินของตัวเราเอง’ ว่า
-เรามีความเดือ ดร้อน หรือปัญหาด้านการเงินหรือไม่
-มีห นี้สินเท่าไร มีรายรับ-รายจ่ายเป็นอย่ างไร มีสภาพคล่องเพียงพอหรือไม่ โดยให้คิดถึงทั้งสถานะปัจจุบันและคาดการณ์ไปถึงภาระที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตหากโดนเบี้ยวห นี้
-มีเงินออมรองรับเหตุการณ์ฉุ ก เ ฉิ นต่าง ๆ เพียงพอหรือไม่ และมีเงินออมสำหรับรายจ่ายก้อนใหญ่ที่รออยู่ข้างหน้าหรือยัง เช่น ค่าเทอมลูก ค่าผ่าตัดของสมาชิกในบ้ าน เงินที่เตรียมไว้ดาวน์บ้ าน ดาวน์รถ ซึ่งเงินออมทั้ง 2 ก้อนนี้เป็นเงินที่เรากันไว้เพื่อความจำเป็นในชีวิตของเรา จึงไม่ควรเอาไปให้ใครยืม
4 ปรึกษาครอบครัว
ถ้าเราแต่งงานแล้ว อย่ าด่วนตัดสินใจให้ยืมเงินหรือค้ำประกันเงินกู้ให้ใครโดยไม่ปรึกษาคู่ชีวิตหรือครอบครัว เพราะนอ กจากใช้ชีวิตร่วมกันแล้วส่วนใหญ่ก็ใช้และรับผิดชอบเงินร่วมกันด้วย ดังนั้น
ครอบครัวควรรับรู้และร่วมตัดสินใจ เช่น ช่วยเราคิดว่าจะให้ยืมเงินหรือค้ำประกันเงินกู้หรือไม่ เป็นจำนวนเงินเท่าไร ซึ่งคู่สมรสที่จดทะเบียนต้องเซ็นหนังสือยินยอมหรือรับทราบว่าสามีหรือภรรย าของตนเองค้ำประกันเงินกู้ให้คนอื่นด้วย นอ กจากนี้ เรื่องราวอาจบานปล า ยไปสู่ปัญหาครอบครัว เช่น ทะเลาะเบาะแว้งจนต้องหย่ าร้าง
หรือหากถูกยึดบ้ านไปข า ยทอ ดตลาดเพื่อใช้ห นี้ ครอบครัวก็จะเดือ ดร้อนไม่มีที่อยู่อาศัยโดยไม่ได้คาดคิดมาก่อน ความคิดเห็นของครอบครัวอาจทำให้เราได้มุมมองที่ไม่เคยนึกถึง และหากครอบครัวไม่เห็นด้วย ก็ควรเคารพการตัดสินใจ และปฏิเสธการให้ยืมเงิน หรือค้ำประกันเงินกู้ไป
ที่มา g a n g b e a u t y, j i n g j a i 9 9 9