วันนี้เราจะพาคุณไปฝึกใช้ชีวิตติดดิน ไปอยู่ที่ไหน ก็อยู่ได้ไม่ลำบาก กับบทความ 9 ข้อคิด ฝึกใช้ชีวิตติดดิน อยู่ที่ไหนก็อยู่ได้สบายๆ ไปดูกันว่าจะต้องฝึกตัวเองแบบไหนบ้าง
ชีวตเราไม่ใช่เรื่องง่าย ในแต่ละวันมีปัญหามากมายเข้ามาให้ได้เเก้ไข ความเ ค รี ย ดสะสมจากหล า ยๆ เรื่อง ทำให้คุณอาจเป็นคนคิดมาก กังวลและสร้างกำเเพงให้ตัวเอง จนกล า ยเป็นคน
มองโลกในแง่ ร้ า ย ไปโดยไม่รู้ตัว ในเมื่อเรารู้อย่ างนี้แล้ว ว่าปัญหาบางอย่ าง เราก็ไม่สามารถควบคุมหรือเเก้ไขได้ งั้นก็ลอง 9 วิธีฝึกให้ตัวเองเป็นคนสบายๆ อยู่ที่ไหนก็มีสุข กันดีกว่า
1 ฝึก ตัวเองให้เป็นแสงสว่างในที่มืด
หมายความว่า ตรงไหนที่มัน มืด เราควรไปเป็น ด ว ง ไฟส่องทางให้เขา ตรงไหนที่ไม่มีคนช่วย เราควรไปทำ เช่น ลองหาเวลาไปรับประทานอาหาร ร้านที่ไม่มีลูกค้าเข้า อย่ ามุ่งแต่เรื่องกิน
ให้การกินของเรามันเป็นการช่วยเหลือผู้อื่นบ้าง ร้านเขาไม่มีลูกค้า แล้วเราเข้าไปนั่ง มันไม่ใช่แค่เงิน แต่มันหมายถึง กำลังใจ อย่ าคิดถึงการบริการที่ดีที่สุด อย่ าคิดถึง รสช าติของอาหารให้มากนัก
2 ฝึก มองตัวเองให้เล็กเข้าไว้
หมายความว่า จงเป็นคนตัวเล็ก อย่ าเป็นคนตัวใหญ่ จงเป็นคนธรรมดา อย่ าเป็นคนสำคัญ เวลามีอะไรเกิดขึ้นกับเรา อย่ าไปให้ความสำคัญกับตัวเองมาก อย่ าปล่อยให้จิตใจวนไป วน มากับความรู้สึกของตัวเอง
เหมือนจมอยู่ในอ่างลองเปิดต า มองไปรอบๆ แล้วมองให้เห็นว่า คนบนโลกนี้มีมากมายแค่ไหน ตัวเราไม่ได้เป็นศูนย์กลางของโลก ดังนั้น ก็อย่ าไปให้ความสำคัญกับมัน มากนัก ทุ ก ข์ บ้าง ผิดบ้าง เรื่องธรรมดา
3 ฝึก ให้ตัวเองเป็นนักไม่สะสม
หมายความว่า การสะสม อะไรสักอย่ างนั้นเป็นภาระไม่มีอะไรที่เราสะสมแล้วไม่เป็นภาระยกเว้นความดี นอ กนั้นล้วนเป็นภาระทั้งหมดไม่มากก็น้อย ในแง่ของความสุข เราไม่จำเป็นต้องสะสมอะไรเพื่อให้มี ความสุข วิธีมีความสุข ของคนเรามีมากมายหล า ยอย่ าง และเราไม่ควรเลือ กวิธีที่สร้างภาระให้กับตนเอง
4 ฝึก ให้ตนเองเป็นคนสบายๆ
หมายความว่า อย่ าไปยึดติดกับความสมบูรณ์แบบ เพราะความสมบูรณ์แบบมันไม่มีจริง มีแต่คนโ ง่เท่านั้นที่มองว่า ความสมบูรณ์แบบมีจริง ไม่ว่าจะทำอะไรก็ต าม หัดเว้นที่วางไว้ให้ความผิดพลาดบ้าง ทุกอย่ างไม่จำเป็นต้องไร้ที่ติ การผิดบ้างถูกบ้าง เป็นเรื่องธรรมดาของชีวิต เพียงแต่เราต้องรู้จัก ปรับปรุงตนเอง ไม่ให้ผิดพลาดบ่อยๆ ซ้ำๆซากๆ
5 ฝึก ให้ตัวเองเป็นคนนิ่งๆ หรือไม่ก็พูดในสิ่งที่ดีๆ
หมายความว่า ถ้าอะไรไม่ดีก็อย่ าไปพูดมาก ไม่ว่าสิ่งนั้นจะถูก หรือผิด แต่ถ้ามันไม่ดี เป็นไปได้ก็ไม่ต้องพูด เพราะการพูด หรือวิจารณ์ในทางเสียห า ยนั้น มีแต่ทำให้จิตใจตนเอง ตกต่ำ และขุ่นมัว คนที่พูดจาไม่ดี แม้ว่าคำพูดจะดูฉลาดหลักแหลมเพียงไรมันก็คือความโ ง่ชนิดหนึ่ง คนที่พูดแต่เรื่องไม่ดีของคนอื่น นับเป็นคนหาความสุขได้ย ากนัก
6 ฝึก ให้ตัวเองรู้ธรรมช าติว่า อะไรๆ ก็ผ่ านไปเสมอ
หมายความว่า เวลามีความสุข ก็ให้รู้ว่า เดี๋ยวความสุข มันก็ผ่ า นไป เวลามีความทุ ก ข์ ก็ให้รู้ว่า เดี๋ยวความทุ ก ข์ ก็ผ่ านไป เวลามีสถานการณ์แย่ๆ เกิดขึ้น ก็ให้รู้ทันว่า เรื่องราวเหล่านี้ มันไม่ได้อยู่กับเราจนวัน ต า ย ดังนั้น อย่ าไปเสียเวลา คิดมาก อย่ าไปย้ำคิดย้ำทำ
อย่ าไปหลงยึดไว้ เกินความจำเป็น ให้รู้จักธรรมช าติของมัน การยึดติดกับวัตถุ บุคคล หรือความรู้สึกจนเกินเหตุ คือปัจจัยสำคัญอันดับต้นๆ ที่ทำให้คนเราเกิดความทุ ก ข์ ตรงนี้เป็นสิ่งที่เราต้องรู้ และต้องฝึกฝนตนเอง ให้เป็นคนปล่อยวางอะไรง่ายๆ เข้าไว้
7 ฝึก ให้ตัวเองเข้าใจเรื่องของการนินทา
หมายความว่า เราเกิดมาก็ต้องรู้ตัวว่า เราต้องถูกนินทา แน่นอน ดังนั้น เมื่อถูกนินทาขอให้รู้ว่า ‘เรามาถูกทางแล้ว’ แปลว่า เรายังมีตัวตนอยู่บนโลก คนที่ชอบเต้นแร้งเต้นกา กับคำนินทาก็คือคนไม่รู้เท่าทันโลก แม้แต่คนเป็นพ่อแม่ก็ยังนินทาลูก คนเป็นลูกก็ยังนินทาพ่อแม่ นับประสาอะไรกับคนอื่น
ถ้าเราห้ามตัวเองไม่ให้นินทาคนอื่น ได้เมื่อไหร่ ค่อยมาคิดว่า เราจะไม่ถูกนินทาขอให้รู้ว่า คำนินทา คือ ของคู่กับมนุษย์โลก มีมาช้านานแล้ว แม้แต่พระพุทธเจ้า นักบุญ คนที่สร้างคุณงามความดีไว้กับโลกมากมายยังถูกนินทา แล้วเราเป็นใครจะไม่ถูก นินทา
8 ฝึก ให้ตัวเองพ้นไปจากความเป็นข ี้ข้าของเงิน
หมายความว่า เราต้องหัดพอใจ กับสิ่งที่ตัวเองมีอยู่ รถยนต์ใช้อะไรอยู่ ก็หัดพอใจกับมัน นาฬิกาใช้อะไรอยู่ ก็หัดพอใจกับมัน เสื้อผ้ าใช้อะไรอยู่ ก็หัดพอใจกับมัน การที่คนเราจะเลิกเป็นข ี้ข้าเงินได้ ต้องเริ่มจากการรู้จัก เพียงพอก่อน เมื่อรู้จักพอแล้ว ก็ไม่ต้องหาเงิน มาก เมื่อไม่ต้องหาเงิน มาก ชีวิตก็มีโอ กาสทำอะไรที่มากกว่า การหาเงิน
9 ฝึก ให้ตัวเอง เ สี ย ส ล ะ และยอมเสียเปรียบ
หมายความว่า การที่คนๆ หนึ่งยอมเสียเปรียบ ผู้อื่นบ้าง เป็นเรื่องจำเป็น ใครก็ต ามที่บ้าความถูกต้อง บ้าเหตุบ้าผล ไม่ยอมเสียเปรียบอะไรเลย ไม่ช้า คนๆ นั้นก็จะเป็นบ้า สติแตก กล า ยเป็นคนที่ถูกทุกอย่ างแต่ไม่มีความสุข เพราะต้องสู้รบกับคนรอบข้างเต็มไปหมดเพื่อความถูกต้องที่ตนเองยึดมั่นถือมั่นซึ่งส่วนใหญ่ มันก็เป็นเพียงความถูกต้องที่กิเลสของตัวเองลากไป ไม่ได้เป็นเรื่องที่ถูกต้อง ตรงธรรมอย่ างแท้จริง
ที่มา sabuyjaijung