4 ข้อเตรียมตัวลาออ ก หากหมดกำลังใจในการทำงาน เบื่อทั้งงานเบื่อทั้งคน

การลาออ กเป็นทางออ กที่ดีสำหรับคนที่เริ่มเบื่องานและเพื่อนร่วมงาน และวันนี้เราก็อย ากจะมาแนะนำวิธีการลาออ กจากที่ทำงาน แบบเดินออ กมาอย่ างสวยๆ กับบทความ 4 ข้อเตรียมตัวลาออ ก หากหมดกำลังใจในการทำงาน เบื่อทั้งงานเบื่อทั้งคน ไปดูกันว่าการลาออ กอย่ างมืออาชีพนั้นเขาทำกันยังไง

ออ กจากงาน คือสิ่งที่คนจำนวนไม่น้อยที่คิดกันอยู่ทุกวัน ความคิดที่ว่าจะเปลี่ยนงานนั้น อาจมาจากปัญหาบางอย่ างที่ทำให้เราทนไม่ไหวจนอ กออ กจากงาน อาจจะเกิดปัญหาเกี่ยวกับผลตอบแทนที่ได้รับน้อยเกินไป อาจจะเกิดจากปัญหาสุขภาพต่างๆ อาจจะเกิดจากปัญหาทางบ้านที่ส่ งผลกระทบต่างๆที่มากพอที่ทำให้เรานั้นอ กออ กจาก และปัญหาต่างๆอีกมากมายแต่ไม่ว่าอย่ างไรก็ต ามเมื่อเรามีความคิดที่อ กออ กจากงานแล้ว

เราก็ควรที่จะเตรียมตัวบางอย่ างเพื่อให้ตัวเองนั้นสามารถออ กจากงานแล้วหางานใหม่ได้อย่ างไม่กลำบากมากเท่าไหร่ ซึ่งคนจำนวนไม่น้อยอาจจะรู้สึกลำบากไม่น้อยกับการหางานหลังจากที่ออ กจากงานอย่ างจริงจัง อาจจะทำตัวไม่ถูกเมื่อต้องทำการสมัครงานจาก CEO คนใหม่และอาจจะเริ่มต้นไม่ถูกกับการทำงานใหม่ๆ ซึ่งเราสามารถเตรียมตัวก่อนที่จะทำการออ กจากงานได้ดังนี้

1 วางแผนการใช้เงิน

รายจ่ายต่างๆที่เรามีอยู่นั้น แน่นอนว่าหลังจากที่เราได้ออ กจากงาน เราก็ยังคงต้องจ่ายรายจ่ายเหล่านั้นเป็นเรื่องปกติ ไม่มีข้อยกเว้นสำหรับคนไม่มีงานทำหรือสำหรับคนที่กำลังหางานทำอยู่ สิ่งหนึ่งที่ทำให้คนจำนวนไม่น้อยที่มีความคิดอ กออ กจากงาน แต่ก็ยังคงต้องอ ดทนทำงานเดิมนั้นต่อไปเรื่อยๆ ถ้าทำการออ กจากงานแล้ว กลัวว่าเราจะไม่มีเงินจ่ายรายจ่ายต่างๆที่เรามีอยู่ เราควรที่จะวางแผนเก็บเงินไว้เพื่อสำรองรายจ่ายต่างๆที่มีอยู่ และยิ่งเราสามารถวางแผนในการรับมือเกี่ยวกับรายจ่ายของเราได้เร็วมากขึ้นเท่าไหร่

เราก็ยิ่งมีความรู้สึกสามารถออ กจากงานได้อย่ างปลอ ดภั ยเร็วขึ้นเมื่อนั้น เราสามารถที่จะทุ่มเงินให้กับสินค้าเงินผ่อนต่างๆที่เราต้องผ่อนอยู่ให้หมดไวๆได้เพื่อที่เวลาออ กจากงานแล้วเราจะได้ไม่ต้องกังวลถึงเงินผ่อนที่เราต้องจ่าย แต่ถึงอย่ างไรก็ต ามการวางแผนการใช้เงินนั้นก็คงไม่ใช่เพียงแค่เรื่องเงินผ่อนอย่ างเดียวแน่ แต่รวมถึงรายจ่ายต่างๆที่เราต้องใช้จนกว่าเราจะสามารถหารายรับจากงานใหม่ของเราได้

2 ดูเงินในกระเป๋าของเรา

แน่นอนว่า เมื่อใดก็ต ามที่เราทำการออ กจากงานแล้ว รายรับหลักๆที่ได้จากงานของเราก็ห า ยไป เงินที่เราได้มาจากงานประจำที่เราเคยทำอยู่ก็จะห า ยไป ถ้าเราไม่มีเงินสำรองไว้ในตัวเราหรือถ้าเราไม่ทำการออมเงินไว้ก่อนที่จะออ กจากงาน แน่นอนว่า เราคงได้อ ดเป็นแน่แท้ และเราอาจจะลำบากในวันต่อๆไปแน่นอน เมื่อใดก็ต ามที่เราคิดจะออ กจากงานนั้นเราควรวางแผนที่จะเก็บของเราไว้ให้มากที่สุดเพื่อเป็นทุนที่ใช้ในเวลาที่เราไม่มีรายรับหลักๆเข้ามา

อย่ างไรก็ต ามการวางแผนเรื่องเงินนั้น อาจจะเป็นเรื่องที่ไม่กสำหรับใครที่มีเงินเก็บระหว่างที่ทำงานอยู่และยิ่งถ้าเรามีเงินเก็บที่มากจากการทำงานเดิมของเราแล้ว ความคิดที่จะออ กจากงานเดิมของเราก็ไม่ใช่เรื่องที่ลำบากหรือแย่เท่าไหร่ ดังนั้นใครก็ต ามที่คิดจะออ กจากงานก็ควรจะมีเงินเก็บจำนวนหนึ่งที่มากพอที่ทำให้เราไม่ติดขัดเรื่องเงิน และจำนวนเงินเหล่านั้นต้องมากพอที่จะทำให้เราอยู่ได้จนกว่าจะได้งานใหม่

3 วางแผนเกี่ยวกับงานใหม่ที่ต้องการ

แน่นอนว่าความคิดที่เราจะออ กจากงานเดิมนั้น มีคนไม่น้อยที่คิด แต่เมื่อใดก็ต ามที่มีความคิดที่จะออ กจากงานแล้วก็ควรมีความคิดที่เกี่ยวกับงานใหม่ที่เราต้องการเช่นกัน เราคงจะไม่วางแผนหลังจากที่ทำการลาออ กจากงานเดิมเป็นแน่ คนจำนวนไม่น้อยที่รู้สึกอ กออ กจากงานเดิมที่ทำอยู่แต่สิ่งที่คนเหล่านั้น อาจจะลืมคิดไปคืองานใหม่ที่เราต้องหารหลังจากที่ออ กจากงานเก่า เราควรที่จะวางแผนเกี่ยวกับงานใหม่ระหว่างที่เรากำลังทำงานเดิมของเราอยู่

สิ่งหนึ่งที่เราต้องการคือความมั่นคงเกี่ยวกับงานของเรา ถ้าเราออ กจากงานเดิมของเราแล้วไม่มีงานใหม่รองรับแน่นอนว่าเราคงรู้สึกไม่มั่นคงเป็นแน่ แต่ถ้าเราได้วางแผนเกี่ยวกับงานใหม่ของเราแล้วนั้นเราจะสามารถออ กจากงานเดิมได้โดยที่ไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับงานใหม่ที่เราจะได้ทำ และนั่นหมายถึงรายรับที่เราได้นั้นก็ยังคงได้เป็นเรื่องปกติแน่นอน

สิ่งหนึ่งที่เราไม่ควรลืมนึกคือ CEO หรือคนรับสมัครงานที่จะทำหน้าที่คัดคนเข้าไปทำงาน จะรับเราเข้าไปทำงานหรือเปล่า ถ้าเราออ กจากงานเดิมแล้วสมัครงานใหม่ ถ้าเกิดบริษัทนั้นไม่รับเราเข้าทำงานแล้วเราก็อาจจะรู้สึกพลาดที่ตัดสินใจอะไรแบบนั้นลงไป

4 ศึกษาความสามารถของตัวเอง

งานที่เราทำอยู่นั้นแน่นอนว่าเป็นสิ่งหนึ่งที่ทำให้เราได้เปรียบมากกว่าคนอื่นๆที่ไม่มีประสบการณ์ในการทำงาน หรือ กล่าวได้อีกนับหนึ่งการงานเดิมของเรานั้น ทำให้เราสามารถเขียนว่าเคยทำงานอะไรลงไปในช่องกรอ กใบสมัครงาน สิ่งหนึ่งที่เราไม่ควรลืมที่จะนึกถึงคือ ความสามารถของตัวเองที่มีอยู่ในงานเดิมและการกอบโกยความรู้จากบริษัทเดิมที่เราเคยทำอยู่ ยิ่งเรามีความสามารถมากขึ้นเท่าไหร่ นั่นหมายถึงการเป็น มืออาชีพในสิ่งต่างๆเหล่านั้นที่เราเคยทำและยิ่งเรามีความเป็น มืออาชีพที่มากพอ ก็ยิ่งทำให้เรามีโอกาสได้งานกับบริษัทใหม่มากขึ้นเท่านั้นหรือเราอาจจะสามารถออ กจากงานเดิมเพื่อเปิดบริษัทใหม่ได้ง่ายขึ้นกว่าเดิม

ที่มา forlifeth