6 ผลไม้ยิ่งกินยิ่งสวย กับ 6 ผลไม้ยิ่งกินหุ่นยิ่งไม่สวย

วันนี้เราอย ากที่จะพาเพื่อนๆ ไปเรียนรู้ผลไม้ที่ควรทาน และผลไม้ที่ควรทานให้น้อย เพื่อหุ่นที่สวยของเรา กับบทความ 6 ผลไม้ยิ่งกินยิ่งสวย กับ 6 ผลไม้ยิ่งกินหุ่นยิ่งไม่สวย ไปดูกันว่าผลไม้ชนิดใดที่ควรกินเป็นประจำ และผลไม้ชนิดใดที่นานๆ ค่อยกิน

6 ผลไม้ที่กินแล้วไม่อ้วน

1 แอปเปิ้ล ยืนหนึ่งเลยสำหรับผลไม้สำหรับลดน้ำหนัก เพราะในแอปเปิ้ล 1 ลูกจะให้พลังงานเพียง 80 แคลอรี่ และยังมีไฟเบอร์สูงถึง 4 กรัม จึงเหมาะที่จะเป็นผลไม้สำหรับลดน้ำหนัก เพราะกินแล้วช่วยลดความอ ย ากอาหาร ใช้กินแทน มื้ออาหารเย็นที่ไม่จำเป็นได้ กันไม่ให้หิวก่อนนอน จะได้นอนหลับสบายขึ้น แม้ในแอปเปิ้ลจะมีน้ำต าลอยู่มากจำนวนหนึ่ง แต่ก็เป็นน้ำต าลธรรมช าติที่ร่างกายสามารถดูดซึมและใช้ประโยชน์ได้ภายใน 10 นาทีเท่านั้น

2 แคนต าลูป ด้วยพลังงานที่น้อยเพียง 60 แคลอรี่ต่อ 1 ลูก จึงเป็นผลไม้ที่ใครต่อใครมักนำมาทานหลังมื้ออาหารแทนของหวาน

หรือทานได้เวลารู้สึกหิวระหว่างวัน เพราะเป็นผลไม้ที่ทานแล้วรู้สึกอิ่มท้อง อีกทั้งยังมีวิต ามินและเกลือแร่ที่สูง เช่น วิต ามินซี วิต ามินเอ วิต ามินบี6 โพแทสเซียม ไนอาซิน โฟเลต และเบต าแครอทีนเป็นต้น ดังนั้นจึงเป็นผลไม้ลดน้ำหนักที่ช่วยดูแลร่างกายไปพร้อมๆกัน

3 ฝ รั่ ง ใน 1 ลูกมีพลังงาน 60 แคลอรี่ กินอร่อย ช่วยทำให้อิ่มท้องสามารถกินได้ตลอ ดวัน และยังมี ส า ร ต้ าน อ นุมูลอิสระอยู่มาก

เมื่อเทียบกับผลไม้ชนิดอื่นๆที่ให้แคลอรี่ที่ต่ำ เมื่อ กินแล้วนอ กจากจะช่วยทำให้น้ำหนักลด ยังช่วยชะลอริ้วรอยแก่ก่อนวัย และชะลอความเสื่อมของอวัยวะต่างๆของร่างกายได้

4 กีวี เป็นหนึ่งในผลไม้ที่คนกินคลีน มักจะกินกัน เพราะในกีวีมีวิต ามินซีที่สูงมาก และปริมาณ 100 กรัมให้พลังงานแค่ 61

แคลลอรี่ จึงเป็นผลไม้ที่กินแล้วไม่อ้วน และยังช่วยเร่งระบบขับถ่ายให้ดีขึ้น จึงทำให้หน้าท้องแบนราบ รูปร่างดี ช่วยในเรื่องชะลอความแก่ ลดการเกิดริ้วรอย แล้วยังรสช าติที่หวานอมเปรี้ยว จึงเป็ฯที่ถูกใจของสาวๆเป็นจำนวน มาก

5 มะละกอ อีกหนึ่งผลไม้ที่เป็นที่นิยมในการนำมากินเพื่อลดน้ำหนัก เพราะให้แคลอรี่ตำ แต่อยู่ท้องนานทำให้ไม่หิวบ่อย อีกทั้งยังมีรสช าติหวานกินง่าย มีเส้นใยอาหารเยอะช่วยในการขับถ่าย และยังทำให้ผิวพรรณเปล่งปลั่ง ขาวเนียนสดใสมากยิ่งขึ้น

6 แตงโม ผลไม้ที่กินแทนน้ำดื่มหวานๆเย็นๆได้เลย ด้วยพลังงานแค่ 46 แคลอรี่ เพียงเราเอาแตงโมไปแช่ในตู้เย็นแล้วเอามากิน

ก็จะทำให้รู้สึกอร่อยสดชื่น ไม่ต้องมากินน้ำหวาน ไอติม หรือของหวานที่มีน้ำต าลอยู่มาก อีกทั้งในแตงโมยังมีโพแทสเซียม วิต ามินซี แอนไทออ กซิแดนซ์ เบต าแครอทีน และไลโคปีน ช่วยในการยับยั้ง โ รค ร้ า ยต่างๆที่จะเกิดขึ้น เมื่อ กิน มากๆยังช่วยลดปัญหาริ้วรอยจากสิว และผิวพรรณที่ดีขึ้นได้

6 ผลไม้กินแล้วอ้วน

1 ทุเรียน ราช าแห่งผลไม้ที่ทุกคนตั้งต ารออยู่ทุกปี ด้วยความอร่อยหวาน มันทำให้เรากินได้มากกว่า 1 เม็ด แต่เมื่อมาดูปริมาณของแคลอรี่ที่ได้นั้น ทุเรียนปริมาณ 100 กรัม ให้พลังงานที่สูงถึง 163 แคลอรี่ คิดง่ายๆคือ เป็นพลังงานที่ต้องเผาผลาญโดยการเดิน 59 นาที หรือวิ่ง 26 นาทีอย่ าง ต่อเนื่อง แล้วเวลาที่เรากินเราไม่ได้กินแค่เม็ดเดียว เพราะฉะนั้นควรกินในปริมาณที่พอเหมาะในแต่ละวันจะดีกว่า

2 สับปะรด อีกหนึ่งผลไม้ที่เรามักเข้าใจว่ากินแล้วผอม แต่ในความเป็นจริงแล้วสับปะรด 1 กรัม ให้พลังงานถึง 45 แคลอรี่ เวลาเรากินแต่ละครั้งแทบจะหมดทั้งผล หากซื้ อต ามรถเข็นก็จะได้ 1/4 ของลูก แล้วเราก็กินหมดทุกที โดยลืมคิดไปว่าในสับปะรดแต่ละชิ้นนั้น มีน้ำต าลอยู่ในปริมาณมาก แม้สับปะรดจะช่วยล้างไขมันในลำไส้ได้ ก็ไม่ควรกิน มากเกินไป

3 มังคุด ราชินีแห่งผลไม้ ในมังคุด 100 กรัม หรือ 4 ลูก ให้พลังงานสูงถึง 82 แคลอรี่ ต้องใช้เวลาในการเผาผลาญคือ เดิน 30 นาที ว่ายน้ำ 10 นาที แล้วเวลาเรากินทีเรากินกันเป็นกิโล เพราะรสช าติที่หวานกรอบอร่อย ทำให้กินเพลินจนลืมคิดถึงแคลอรี่กันเลยทีเดียว

4 กล้วย การกินกล้วยเพื่อลดน้ำหนักนั้นเป็นวิธีที่ถูก แต่ในเฉพาะกล้วยหอมเท่านั้น หล า ยคนคิดว่าจะเป็นกล้วยอะไรก้ได้ จึงหยิบกล้วยน้ำว้า กล้วยไข่มากินแทน แต่กล้วย 2 ชนิดนี้ มีน้ำต าลที่สูงมาก 100 กรัมให้พลังงานถึง 147 แคลอรี่ สูงมากจนน่าตกใจ เผาผลาญได้โดยการปั่นจักรย าน 31 นาที หรือวิ่งนาน 23 นาที เพราะฉะนั้นควรเลือ กกินให้ถูกชนิด

5 เงาะ เหมือนจะให้พลังงานที่น้อย แต่จริงๆแล้วในเงาะนั้น มีปริมาณน้ำต าลที่สูง 100 กรัมให้พลังงานถึง 67 แคลอรี่ ที่ต้องเผาผลาญออ กด้วยการวิ่ง 11 นาที หรือปั่นจักรย าน 14 นาที และด้วยรสช าติที่อร่อยเคี้ยวเพลิน จึงทำให้เรากินต่อครั้งในปริมาณที่มาก

6 มะม่วง ไม่ว่าจะสุกหรือ ดิบก็ให้พลังงานที่สูงเหมือนกัน ต่างกันที่มะม่วงสุกจะให้พลังงานที่มาจากน้ำต าล เช่น มะม่วงน้ำ ด อ กไ ม้สุกเพียง 8 ชิ้น ให้พลังงานสูงถึง 120 แคลอรี่ ส่วน มะม่วงดิบจะให้พลังงานที่มาจากแป้ง โดยมะม่วง 3 ขีด หรือราวๆ 4-5 ลูกโต เท่ากับการกินข้าว 1 จาน ยังไม่รวมไปถึงพลังงานที่ได้จากข้าวเหนียวมูล หรือน้ำปลาหวาน ที่เป็นเครื่องเคียงยอ ดนิยมอีกด้วย

ผลไม้มีมากมายหล า ยชนิดนัก ต่างก็ให้ประโยชน์และคุณค่าทางอาหารต่างกัน ควรจะศึกษาให้ดี เลือ กกินผลไม้ชนิดที่ตอบโจทย์เราได้มากที่สุด เพราะเดี๋ยวนี้เราสามารถคำนวนแคลอรี่ได้ต ามกูเกิลแล้ว ซึ่งง่ายต่อ การประกอบการตัดสินใจมาก อ ย่ าลืมว่าเมื่อเรากินอะไร เราก็จะได้ผล อย่ างนั้น

ที่มา Postsod, krustory