วันนี้เราอย ากที่จะพาเพื่อนๆ ไปเรียนรู้สิ่งที่พ่อแม่ชอบทำให้ลูกอยู่เป็นประจำ มักทำให้ลูกไม่สามารถใช้ชีวิตอยู่รอ ดได้ในสังคม เมื่อเขาเติบโตกับบทความ 9 สิ่งที่พ่อแม่ทำให้ลูก อาจจทำให้ลูกใช้ชีวิตไม่เป็นสักที ไปดูกันว่ามีเรื่องอะไรบ้างที่พ่อแม่ควรเลิกทำให้ลูกสักที
1 ยอมให้ลูกหยุดเรียน
เพราะเด็กบางคนอาจมีอาการป่ ว ยการเมือง เนื่องด้วยสาเหตุหล า ยๆ อย่ าง อาจจะเกิดจากวิช าเรียน และการบ้านต่างๆ ซึ่งวิช าเรียนอาจง่ายเกินไป ทำให้เด็กเกิดความเบื่อ หรือ วิช าเรียนอาจย ากจนเกินไป ทำให้เด็กเกิดความกดดันว่าไม่ฉลาดเท่าเด็กคนอื่นๆ สิ่งสำคัญที่พ่อแม่ควรทำคือ อย่ าถามลูกว่าทำไมถึงไม่อย ากการไปโรงเรียน เนื่องจากเด็กมักจะไม่รู้คำตอบ เมื่อเด็กไม่รู้ว่าจะตอบอย่ างไร ก็จะเป็นการทำให้เด็ก เกิดความรู้สึกเค รี ย ดแทน ทั้งนี้พ่อแม่ผู้ควรบอ กเด็กว่าความกลัวไม่ช่วยอะไร หากแต่เด็กควรเอาชนะความกลัวให้ได้ ควรเปิดใจให้กว้างในการรับฟังความรู้สึกของลูก
2 ปลุกลูกไปโรงเรียนตอนเช้าทุกวัน
เรียกได้ว่ากิจวัตรประจำวันของคุณแม่ ที่ต้องทำทุกเช้า คือ การปลุกลูกเพื่อไปโรงเรียน ซึ่งความจริงแล้วคุณพ่อคุณแม่ควรฝึกลูกให้ตั้งนาฬิกาปลุกและจัดสรรเวลานอน ให้เหมาะสมเพื่อให้เขาได้เรียนรู้ที่จะจัดการกับต ารางชีวิตของตัวเอง
3 ทำอาหารเช้าหรืออาหารกลางวันให้
คุณแม่หล า ยคนอาจเป็นห่วงว่าลูกจะทานอาหารไม่อิ่มและได้รับสารอาหารไม่ครบถ้วน จึงต้องเตรียมอาหารให้ลูกทุกวัน ถ้าคุณอย ากให้ลูกโตเป็นผู้ใหญ่ซะที คุณก็ควรให้เขาทำอาหารเองค่ะ ถ้าเขาทำไม่เป็นคุณแม่อาจจะต้องสอนลูกก่อนสักหน่อย
4 นำของที่ลูกลืมไปให้ถึงที่โรงเรียน
การที่ลูกโทรมาเพื่อบอ กให้คุณพ่อคุณแม่นำเอาสิ่งของที่ลืมไปส่ งที่โรงเรียน โดยที่คุณก็ทำต ามที่ลูกสั่งทุกครั้ง ซึ่งนั่นอาจทำให้ลูกกล า ยเป็นเด็กที่ไม่รอบคอบได้ ดังนั้น เมื่อลูกโทรมาเพื่อให้คุณพ่อคุณแม่ทำแบบนั้นอีก โดยที่ของชิ้นนั้นไม่ได้มีความสำคัญ ถึงขั้น ค อ ข า ด บ า ด ต า ย อะไร ก็ควรบอ กปัดเพื่อให้ลูกรู้จักมีความรอบคอบมากขึ้น และตรวจความเรียบร้อยของสิ่งของเครื่องใช้ที่ต้องเอาไปโรงเรียนก่อนออ กจากบ้านทุกครั้ง
5 ซักเสื้อผ้าให้ลูก
เมื่อลูกโตพอที่จะทำงานบ้านได้แล้ว แต่คุณพ่อคุณแม่ไม่เคยฝึกหรือให้ลูกได้ทำด้วยตัวเอง และการที่คุณแม่ซักเสื้อผ้าให้ลูกทุกวัน อาจทำให้เด็กเคยตัวและเป็นคนไม่มีวินัยในตัวเอง หรือความรับผิดชอบ ดังนั้นหากเด็กอยู่ในวัย ที่พอเรียนรู้และทำอะไรด้วยตัวเองได้แล้ว คุณแม่ก็ควรสอนลูกถึงวิธีการใช้เครื่องซักผ้าหรือ การซักผ้าด้วยมือเพื่อที่เขาจะได้ฝึกทำมันด้วยตัวเอง
6 ไม่ยอมปล่อยให้ครูมาว่ากล่าว ตักเตือน หรือตีลูก
ถ้าลูกมา ฟ้ อ ง คุณว่าถูกครูตี หรือว่ากล่าวตักเตือน ซึ่งนั่นอาจทำให้คุณพ่อคุณแม่ มีอาการหัวร้อนและพร้อมจะไปเคลียร์กับครูที่โรงเรียน แต่เรื่องนี้เป็นสิ่งที่อย ากบอ กว่า คนเป็นพ่อเป็นแม่ต้องใจเย็นๆก่อน และอาจต้องสอบถามลูกถึงสาเหตุที่ครูทำเช่นนั้น ซึ่ง หากลูกทำความผิดจริงๆ และการลงโทษไม่ได้ ร้ า ย แ ร ง จนถึงขั้น เ ลื อ ด ต ก ย า ง อ อ ก คุณพ่อคุณแม่ก็ไม่ต้องถึงขั้นไปคุยกับคุณครูเองที่โรงเรียน ควรปล่อยให้เป็นหน้าที่ของคุณครู ที่ต้องอบรมสั่งสอนลูกของเราอยู่แล้ว แต่สิ่งที่ควรทำคือให้คุณพ่อคุณแม่สอนลูกแทน ว่าจะต้องทำตัวอย่ างไรเพื่อไม่ให้โดนครูว่าหรือตีอีก
7 ยุ่งกับการเรียน
การเป็นห่วงสนใจในเรื่องเรียน หรือความเป็นอยู่ที่โรงเรียนของลูกไม่ใช่เรื่องผิดหรอ ก แต่การที่คุณพ่อคุณแม่ไปบงการหรือ กำหนดเส้นทางการเรียนโดยไม่ให้เขามีสิทธิคิด หรือตัดสินใจด้วยตัวเอง นั่นอาจจะทำให้ลูกของคุณไม่โตเป็นผู้ใหญ่เสียที
8 ทำการบ้านให้
สำหรับคุณพ่อคุณแม่คนไหนที่ชอบทำการบ้านให้ลูกเป็นประจำ ควรเลิกทำแบบนี้อย่ างเด็ดข า ด เพราะสิ่งที่คุณกำลังทำอยู่นี้จะทำให้ลูกไม่ได้ฝึกคิด หรือเรียนรู้อะไรเลย ซึ่งถ้าไม่อย ากให้ลูกเติบโตมาแบบไม่มีความรู้ใน ส ม อ ง ก็อย่ า ทำ ร้ า ย ลูกทางอ้อมแบบนี้เลยค่ะ
9 ขีดเส้นชีวิตให้ลูก
กำหนด ก ฎ เ ก ณ ฑ์ ข้อปฏิบัติต่างๆ ให้ลูกเดินต ามทางที่พ่อแม่ปูไว้ ซึ่งนั่นอาจเป็นเรื่องดีที่จะทำให้ลูกมีวินัย แต่ในทุกๆกฎที่พ่อแม่ตั้งไว้ก็ควรให้ลูกรับรู้ด้วย พร้อมให้ลูกมีส่วนร่วมในการขีดเส้นชีวิตของตนเอง และต้องปล่อยให้ลูกได้เรียนรู้ที่จะทำบางสิ่งด้วยตัวเองบ้างค่ะเพียงเท่านี้ความสำเร็จในชีวิตลูก ก็จะอยู่ไม่ไกลสุดท้ายนี้ การเลี้ยงลูกที่ถูกต้องจะต้องอย่ าให้ลูกเปราะบางจนเกินไปเหมือนไข่ในหิน
อย่ าเลี้ยงลูกให้เห็นแก่ตัว ต้องเลี้ยงลูกให้โตไปต ามวัย อย่ าให้กินย ากอยู่ย าก อย่ าให้ลูกกลัวในสิ่งที่ไร้สาระ โดยพ่อแม่ควรเริ่มต้นสร้างนิสัยเด็ก ด้วยการทำให้ตัวเองให้เป็นแบบอย่ างพร้อมกับฝึกให้เด็กรับรู้ และรู้จักรับผิดชอบด้วยตัวเอง รวมทั้งเปิดโอกาส ให้เด็กได้เรียนรู้รวมถึงฝึกฝน นั่นจะทำให้เด็ก สามารถหาแนวทางดำเนินชีวิต ต ามบทบาทและหน้าที่ของตัวเองได้เป็นอย่ างดี
ที่มา k r u u p d a t e .c o m, y i n d e e y i n d e e